โควิด-19 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ถึงกรณีที่ประชุมได้กำชับการป้องกันโรคโควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ว่า เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของโรคและการตรวจคัดกรองเบื้องต้น รวมถึงเรื่องแรงงานชาวเมียนมาที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้วไม่มีงานทำ ถือว่าเป็นปัญหา จึงทำให้เห็นว่ากรณีดังกล่าวมีหลายมุม ซึ่งเราจะต้องคิดถึงวิธีที่จะไปช่วยเขา ไม่ใช่แค่เรื่องเวชภัณฑ์ แต่เราจะต้องไปถ่ายทอดประสบการณ์ที่เรามี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อเมียนมา ซึ่งเราต้องพิจารณาด้วย
ส่วนกรณีที่ประชุมได้กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น เราต้องคุยกับทางเมียนมา ซึ่งโดยปกติมีการพูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศของเขาอยู่แล้ว และคงต้องคุยกันในเร็ว ๆ นี้ว่าจะต้องช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง นอกเหนือจากวัสดุอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ ซึ่งสิ่งที่ตนอยากพูดคุยกับเขา คือการให้เขาต้องมีการตรวจคัดกรองคนของเขาก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้มารอที่ด่านชายแดนเป็นจำนวนมากซึ่งจะทำให้ควบคุมไม่ได้
โดยจะต้องมีการควบคุมและคัดกรองอย่างเป็นระบบ ต้องมีเรื่องการกักตัวแต่ละชุดวาจะดำเนินการกี่คนและมีการตรวจตรากันอย่างดี เพื่อให้รับรู้ว่าใครเป็นใคร นอกจากนี้ ในส่วนของรัฐมนตรีอาเซียนก็ยังมีการพูดคุยผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุขนั้นจะเป็นไป ตามแนวชายแดนไทยทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่จังหวัดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
ที่ประชุมศบค.ได้พูดคุยกันอย่างละเอียดทุกแง่มุม เพื่อให้สถานะของประเทศไทยยังอยู่อย่างที่เป็นในขณะนี้ เพื่อให้ประชาชนคนอื่นไม่ต้องหวาดผวา หากเกิดการระบาดระลอกสอง ซึ่งทั้งหมดนี้คือหัวใจ และหัวใจที่จริงคือการรักษาสถานภาพของการดูแล รับมือ อย่างที่เราได้ทำมาแล้ว และจะต้องเป็นเช่นนี้ต่อไป