กรมป่าไม้ แถลงเตรียมแจ้งจับ ธนาธร – สมพร – พี่สาว บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี กว่า 2 พันไร่
จากรณีที่กรมป่าไม้และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความผิดใช้เอกสาร ภ.บ.ท.5 และ น.ส.2 ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติแบบผิดกฎหมาย เนื้อที่รวม 440 ไร่ และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา และได้ส่งเรื่องราวให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน
ล่าสุด 4 ก.พ. 64 นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทะกษ์ป่า (ศปก.พป) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับการเตรียมแจ้งความเพิ่มเติม นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี
จากการตรวจสอบ พบว่า พื้นที่ที่มีการครอบครองทำประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ต.รางบัว ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 3 พันไร่เศษ มีการใช้ประโยชน์โดยปลูกยูคาลิปตัสต่อเนื่องทั้งพื้นที่ พบว่า มีการจ้างเฝ้าดูแลพื้นที่โดยกลุ่มบุคคลในพื้นที่ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ด่านท่าตะโก สืบสวนสอบสวนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดถูกครอบครองโดยใช้เอกสารสิทธิประเภท นส.3 ก ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 60 ฉบับ และตรวจสอบพบผู้ครอบครอง นส.3 ก คือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 53 ฉบับ เนื้อที่ 1,940-3-93 ไร่ เป็นของ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 5 ฉบับ เนื้อที่ 132-0-22 ไร่ และของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 2 ฉบับ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่ รวมเนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่
เมื่อตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าปรากฏชื่อผู้ครอบครอง 3 ราย คือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นำเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนำมายึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นการกระทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหายต่อพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้
จากการตรวจสอบพบบันทึกการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ดินกับผู้ซื้อขาย มีการบันทึกถ้อยคำว่า ข้าพเจ้ารับทราบอยู่แล้วที่ดินดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และอาจมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิในวันข้างหน้า แต่ก็ยังมีการยืนยันจะซื้อขายต่อ จึงเป็นการเจตนายืนยันครอบครอบที่ดินโดยมิชอบ และเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้