โบว์ ณัฏฐา – วันที่ 19 พ.ย. 63 จากกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ กรณีสถานการณ์ชุมนุมระบุจะเพิ่มความเข้มข้นในการใช้กฎหมายจัดการกับผู้ชุมนุมนั้น
ล่าสุด โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงพลเอกประยุทธ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า จดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดิฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยเสียงที่ท่านจะหาฟังได้ยากยิ่งทั้งในหมู่มิตรและศัตรู
รังสิมันต์ โรม อัด ประยุทธ์ บังคับใช้ม.112 เป็นการดึงสถาบันฯ ลงมาขัดแย้ง
โฆษกก้าวไกล ซัด ประยุทธ์ แถลงการณ์เฮงซวย ไล่ล่าทำสงครามกับประชาชน
แถลงการณ์ที่ออกมาในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงผิดที่คิดว่าการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจะสามารถคลี่คลายวิกฤตในปัจจุบันได้ ทั้งที่การใช้กฎหมายอย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่สุจริตอย่างเรื้อรังต่างหากที่ทำให้สถานการณ์ดำเนินมาจนถึงวันนี้
ท่านจำได้หรือไม่กับการตั้งข้อหากับประชาชนที่รวมตัวกันหลักสิบคนที่ยื่นหนังสือหน้าสถานทูตกัมพูชาเพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีคนไทยถูกอุ้มหาย? ตั้งข้อหากับแฟลชม็อบกลุ่มเล็กๆโดยอ้างพรก.ฉุกเฉินที่ออกมาเพื่อคุมโควิดในขณะที่คนเหล่านั้นยังต้องขึ้นรถเมล์ที่แออัดกลับบ้านหลังการชุมนุม? ท่านจำได้หรือไม่กับการเอารถน้ำผสมสารเคมีพร้อมตำรวจปราบจลาจลมาสลายแฟลชม็อบที่แยกปทุมวันขณะที่ผู้ชุมนุมใกล้จะแยกย้ายกลับบ้าน? จำได้หรือไม่กับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพโดยไร้เหตุจำเป็น แล้วต้องยกเลิกเองในเวลาต่อมาหลังการชุมนุมยกระดับขึ้น? จำได้หรือไม่ว่าการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเหล่านี้ให้ผลอย่างไรในเวลาต่อมา?
หนึ่งในข้อเรียกร้องแรกๆของผู้ชุมนุมคือ “หยุดคุกคามประชาชน” ท่านจำได้หรือยังว่ามันมีที่มาอย่างไร?
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ท่านเคยชินและเคยใช้ได้ผลในยุคคสช. แต่วันนี้กระสุนเหล่านั้นด้านเสียแล้ว เพราะในขณะที่ห้าปีก่อนนั้นประชาชนหวาดกลัวเกินกว่าจะออกมาร่วมต่อต้าน วันนี้ประชาชนจำนวนมากกลับตระหนักว่า “เมื่อความอยุติธรรมเป็นกฎหมาย การต่อต้านคือหน้าที่”
ดิฉันไม่ได้เขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อประณามหยามเหยียด แต่เขียนเพื่อเตือนความทรงจำ ด้วยความเชื่ออย่างจริงใจว่าท่านจะคิดได้เองถึงทางออกที่ดีกว่า อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะนำม.112 กลับมาใช้ก่อนการแก้ไขให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมสากล เพราะนั่นจะเป็นการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะเลี่ยงไปใช้กฎหมายมาตราอื่นๆแล้วโยนภาระให้ศาลเขียนคำพิพากษาให้เข้าองค์ประกอบให้ได้ เพราะนั่นจะเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม อย่าแม้แต่จะคิดว่าการเพิ่มปริมาณการตั้งข้อหาดำเนินคดี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คือคำตอบ เพราะนั่นอาจนำสู่มิคสัญญี
ดิฉันไม่ได้สบายใจมากไปกว่าท่านกับการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลายอย่างเป็นเรื่องน่ากังวล โดยเฉพาะเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่ามีผู้ไม่หวังดีพร้อมนำอาวุธเข้าสร้างสถานการณ์ แต่ประชาชนอย่างเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าจะหวังให้รัฐมีวุฒิภาวะเหนือเยาวชน วันนี้ความหวังนั้นริบหรี่ เมื่อได้เห็นว่าหมายเรียกล่าสุดคือการตั้งข้อหากับเด็กนักเรียนมัธยม เด็กๆที่ออกมาเรียกร้องว่าโรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย วิกฤตครั้งนี้ขยายใหญ่ด้วยมือของท่านเอง และจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายจะเกิดได้ด้วยมือของท่านเช่นกัน ซึ่งมันอาจง่ายเพียงการลงนามในจดหมายฉบับเดียว
ด้วยความปรารถนาดี
น.ส. ณัฏฐา มหัทธนา
ประชาชน