วันที่ 5 มิถุนายน 2563 มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เผยถึงกรณีความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหัวหน้าพรรค ว่า ผมในฐานะหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ เพื่อนหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็ก ทุกคนต่างมีความเห็นว่า ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นศูนย์รวมจิตใจ ของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 18 พรรค และกว่า 276 เสียง
“ท่านเป็นผู้ใหญ่เป็นที่เคารพของ ส.ส. ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 100% จากที่ผมได้รับรู้-สัมผัสมากกว่า 1 ปี 2 เดือน ด้วยตนเอง อีกทั้งผมยังเชื่อว่าแม้แต่แกนนำ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็นับถือเคารพท่านเช่นกัน นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษที่น้อยคนจะทำได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถบริหารประเทศได้อย่างมั่นคง สามารถดึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการแพร่การจายของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาที่ยากมาก ประเทศมหาอำนาจยังทำไม่ได้เลย และปัญหาอื่นๆ ต้องอาศัยความสามัคคีของ ครม. ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ในการผ่าน กฏหมาย พรก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ ผ่านไปอย่างเรียบร้อย รวดเร็ว เพื่อมาช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนกว่า 69 ล้านคน ซึ่งเป็นเงินที่ให้เปล่าทุกสาขาอาชีพกว่า 6 แสนล้านบาท นี้ก็เพราะความเป็นผู้ใหญ่ของ ท่านพลเอกประวิตร” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ท่านเป็นนักประสานที่ประนีประนอมรักษาน้ำใจ รักษาคำพูด ช่วยเหลือ สนับสนุนเป็นหลัก ทำให้เพื่อน ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.ในพรรคเล็กที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยากได้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถ้า ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคี ประเทศก็ไปต่อได้อย่างราบรื่น แม้จะมีอุปสรรคที่ยากๆ ก็จะสามารถผ่านไปได้ ฉะนั้นแล้ว ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สามารถเป็นเสาหลักที่มั่นคงของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างแน่นอน
“ผมเชื่อมั่น ส่วนการปรับ ครม. นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะเห็นว่าบุคคลใดเหมาะสมไปช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป” นายมงคลกิตติ์ กล่าว