ปัญหาเศรษฐกิจ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยว่า ดีใจที่ได้กลับเข้าพรรคเพื่อไทยตามคำเชิญชวนของผู้ใหญ่ที่เคารพในพรรคหลายท่าน และพรรคเปรียบเสมือนบ้านที่คุ้นเคยมาตลอด และเชื่อว่าพรรคจะสามารถเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งให้กับประชาชนได้ในขณะที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มีความนิยมทรุดหนัก
โดยโพลสำรวจล่าสุดพรรคเพื่อไทยยังมาเป็นอันดับหนึ่ง 19.3% โดยมี พรรคก้าวไกล 12.7% และ พรรคพลังประชารัฐ 12.3 % ตามมา แต่ยังมีประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคไหนอีก 41.5% ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะต้องโน้มน้าวประชาชนกลุ่มนี้ให้มาเลือกพรรคเพื่อไทยให้ได้ โดยเฉพาะประเด็นทางด้านเศรษฐกิจจะเป็นจุดขายหลัก
เพราะปัจจุบันประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมาก และเป็นความล้มเหลวของการบริหารของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนได้รับมอบหมายให้เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อมาดูเรื่องเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยต่อจากนี้จะเป็นทางออกให้กับประเทศได้ และจะสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนมาเลือกพรรคเพื่อไทยให้มากขึ้นจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้
ทั้งนี้จากการติดตามสภาวะเศรษฐกิจของไทยพบว่ามีภาวะเสื่อมถอยอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เหมือนที่ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีต รองนายกฯ และ รมว.คลัง ได้เตือนไว้แล้วว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเผาจริง โดยล่าสุดธนาคารโลกได้ออกเตือนว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบมากที่สุดในเอเชียตะวันออก โดยจะติดลบที่ -8.3 % และอาจจะลบหนักไปถึง -10.4% และอาจจะต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะฟื้นมาที่เดิม อีกทั้งรัฐบาลยังใช้เงินอย่างสะเปะสะปะไม่ตรงจุดในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ สภาพัฒน์ฯ ได้ออกมาเตือนในหลายเรื่องเช่น ความเหลื่อมล้ำของรายได้ที่คนรวย 10% มีรายได้มากกว่าคนจน 10% ถึง 20 เท่า อีกทั้งยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ลูกคนรวยมีอัตราเรียนต่อปริญญาตรี 65.6 % ในขณะที่ลูกคนจนมีเพียง 3.8% เท่านั้น และคนจนในไทยเพิ่มขึ้นระหว่างปี 60-63 ต่อเนื่องจากที่ธนาคารโลกบอกในปี 58-61 ประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ล้านคน
ล่าสุด หนี้ครัวเรือนของไทยได้พุ่งสูงถึง 83.8% ของ จีดีพี และอาจพุ่งทะลุ 90% ในปลายปีนี้เมื่อจีดีพีของไทยจะติดลบหนักในขณะที่หนี้จะยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งประชาชนจะเดือดร้อนกันอย่างมาก และที่สำคัญคือตลอดหลายปีที่ผ่านมาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย
แถมยังลดลงด้วย อีกทั้งยังมีปัญหาเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ รายได้ของประชาชนลดลง การส่งออกที่ไม่ขยายตัวเลยตลอด 6 ปี และการลงทุนหดหายแถมยังมีการโยกย้ายฐานการผลิตเช่น บริษัทพานาโซนิคที่เพิ่งจะย้ายออกจากไทยไปเวียดนาม
ปัญหาเหล่านี้จะเป็นปัญหาหลักของประเทศที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะตลอด 6 ปีที่ได้พิสูจน์แล้วว่าบริหารล้มเหลว ซึ่งยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่ยอมรับและพยายามโกหกประชาชนมาโดยตลอด
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยได้ทราบปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าหากประชาชนให้ความมั่นใจ พรรคเพื่อไทยจะสามารถแก้ไขได้แน่ เพราะเรามีแนวคิดและมีบุคคลากรที่มีความพร้อม แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นเศรษฐกิจซักช่วงหนึ่ง
เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มีมาอย่างรุนแรงและยาวนาน แต่ยืนยันว่าจะฟื้นได้แน่ โดยหากปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศต่อไปเศรษฐกิจไทยจะไม่มีทางฟื้นได้เลย