สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) สถาบันวิจัยที่สร้าง Deep Tech Startup เทคโนโลยีเชิงลึกที่ตอบโจทย์ความท้าทายในโลกปัจจุบัน เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย
ในโลกที่การแข่งขันทางเศรษฐกิจทวีความเข้มข้น การสร้างความเข้มแข็งของประเทศอย่างยั่งยืนจึงต้องเริ่มต้นจากรากฐานที่มั่นคง นั่นคือการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพลิกโฉมประเทศไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ New S-Curve ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลนี้เองที่ทำให้ กลุ่มบริษัท ปตท. ได้ริเริ่มก่อตั้ง สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ขึ้นในปี พ.ศ. 2558 เพื่อเป็นสถาบันอุดมศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาที่มุ่งเน้นการบ่มเพาะบุคลากรนักวิจัยและสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นงานวิจัยชั้นแนวหน้าในระดับสากล
สถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3,454 ไร่ ในเมืองแห่งนวัตกรรม วังจันทร์วัลเลย์ (Wangchan Valley) จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ (Education Zone) บรรยากาศโดยรอบถูกออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการสร้างสรรค์และบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ให้เติบโตอย่างมีศักยภาพสูงสุด VISTEC เปิดสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในหลักสูตรนานาชาติ โดยประกอบด้วย 4 สำนักวิชาที่เป็นแกนหลักของนวัตกรรมสมัยใหม่ ดังนี้:
- สำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล (School of Molecular Science and Engineering: MSE)
- สำนักวิชาวิทยาการพลังงาน (School of Energy Science and Engineering: ESE)
- สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล (School of Biomolecular Science and Engineering: BSE)
- สำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (School of Information Science and

สำนักวิชาเหล่านี้คือฟันเฟืองสำคัญที่สอดรับกับเทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตอันใกล้ และด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์งานวิจัยที่มีคุณภาพ VISTEC ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับโลก และจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ Nature Index (www.natureindex.com) VISTEC ครองตำแหน่งอันดับ 1 ด้านเคมีของประเทศไทย และติดอันดับ 3 ของภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งคือการได้รับการจัดอันดับ ที่ 12 ของมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ก่อตั้งมาไม่เกิน 30 ปี
นอกจากด้านวิชาการและการสร้างบุคลากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุณภาพสูงแล้ว VISTEC ยังได้วางทิศทางการดำเนินงานเพื่อขยายผลงานวิจัยออกสู่โลกธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีแนวทางที่ชัดเจน 3 ประการ ได้แก่:
- การสร้างสรรค์งานวิจัยชั้นแนวหน้า: เพื่อสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพสูงควบคู่ไปกับการผลิตงานวิจัยคุณภาพ
- การต่อยอดงานวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรม: ผ่าน Frontier Research Center ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความร่วมมือกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อนำโจทย์จากภายนอกมาพัฒนาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงและตอบสนองความต้องการของตลาด
- การบ่มเพาะวิสาหกิจเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech Startup): ซึ่งเป็นแนวทางที่สำคัญในการนำองค์ความรู้ไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดย VISTEC ได้จัดตั้ง บริษัท วิสอัพ จำกัด (VISUP COMPANY LIMITED) ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็น Venture Builder หรือโรงงานผลิตสตาร์ทอัพ อย่างเป็นระบบและครบวงจร ตั้งแต่การบ่มเพาะไอเดีย การต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ การสนับสนุนเงินทุน ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้สตาร์ทอัพสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จ
ปัจจุบัน VISUP ได้ก่อตั้งบริษัทในรูปแบบนิติบุคคลแล้ว 4 บริษัท ซึ่งเป็นผลผลิตจากการวิจัยของสถาบัน ได้แก่:
1. บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด (VISAI) ผู้ให้บริการพัฒนาแพลตฟอร์มและความรู้ทางปัญญาประดิษฐ์ (AI) คุณภาพสูง สำหรับองค์กร ธุรกิจเล็ก-ใหญ่ ภาคอุตสาหกรรม และบุคคลทั่วไป เสมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเข้าถึงโซลูชั่นจาก AI คุณภาพสูง มีเครื่องมือที่เหมาะสม และตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ
2. บริษัท เซนส์ เอไอ จำกัด (SensAI) เน้นการวิจัยและพัฒนาระบบ AI เพื่องานด้านสุขภาพและการแพทย์ พัฒนาระบบนำเซ็นเซอร์สวมใส่มาประกอบกับ AI ใช้ติดตามและตรวจหาโรคต่าง ๆ เบื้องต้น มีผลิตภัณฑ์เด่นคือ B-Sense ผลิตภัณฑ์ AI ที่สามารถประเมินค่าอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ และตรวจจับความผิดปกติของการหายใจขณะนอนหลับ
3. บริษัท คลีนเทค แอนด์ บียอนด์ จำกัด (Cleantech and Beyond) เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึก เช่น การนำงานวิจัยด้านวัสดุศาสตร์จากสำนักวิชาวิทยาการโมเลกุล (MSE) สถาบันวิทยสิริเมธี พัฒนาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้วต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ มีผลิตภัณฑ์เด่นคือ DTI หรือฉลากวัดอุณหภูมิแบบดิจิทัล (Digital Temperature Indicator) เป็นต้น
4. บริษัท กรีนเจน ไบโอเทคโนโลยี จำกัด (GreenGen Biotechnology) เป็นสตาร์ทอัพที่มุ่งมั่นพลิกโฉมวิธีการจัดการขยะอาหารของโลก แปรรูปขยะอาหารให้กลายเป็นทรัพยากรมูลค่าสูง (ก๊าซชีวภาพและสารบำรุงพืชอินทรีย์) ผ่านระบบย่อยสลายชีวภาพที่เป็นนวัตกรรม ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน

การดำเนินการของ VISTEC ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เชื่อมโยงงานวิจัยในห้องทดลองเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง โดยการนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาสร้างเป็นเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและสามารถตอบโจทย์ความท้าทายในโลกปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน และนำพาประเทศไทยไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง
เว็บไซต์อ้างอิง:
- https://www.youtube.com/watch?v=zueuZizt2ds&t=379s
- https://hilight.kapook.com/view/206957
- https://www.vistec.ac.th/about-us/vistec-at-a-glance
- https://www.vistec.ac.th/about-us/message-from-president
- https://www.youtube.com/@vistecchannel3152
- https://www.vistec.ac.th/innovation/visup-startup-spin-off
- https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=T1LY8tNTCWg
- https://www.bangkokbiznews.com/corporate-moves/business/business/1098999