วันที่ 10 พ.ย. 63 ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นร่าง พ.ร.บ.ประชามติที่รัฐบาลเสนอไปยังรัฐสภา โดยมีความพยายามทำให้ร่างกฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ ส.ว. ที่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาร่วมขบวนดึงเกม รวมไปถึงกรณี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 25 คน และ ส.ว. 47 คน เพื่อยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ 3 ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องการเตะถ่วงเวลา และไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ดีไซน์มาเพื่อรักษาอำนาจของรัฐบาล การเดินเกมการเมืองของรัฐบาลตั้งแต่การตั้งคณะ กมธ.พิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับหลักการสมัยประชุมที่แล้ว
รังสิมันต์ โรม สวนกลับ ส.ว.สมชาย ป้องตำรวจ ใช้สารเคมีสลายชุมนุม
อั๋ว จุฑาทิพย์ ประกาศ งดไปรับทราบคดีทุกหมาย ลั่น จะสอบแล้ว!
การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ก็ส่อแววแท้งก่อนคลอด เกิดจากท่าทีของ ส.ส. ฝั่งรัฐบาลทั้งสิ้น ถึงแม้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปฝ่ายรัฐบาล จะออกมายืนยันว่าในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ร่างแก้รัฐธรรมนูญจะผ่านสภาในวาระแรกก็ตาม แต่เหมือนรัฐบาลตีสองหน้า เพราะการปล่อยให้ ส.ว. ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับหลักการ ถึงกระบวนการทางสภาจะเดินคู่ขนาน แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ญัตติ ไม่ถูกต้อง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กระบวนการทั้งหมดที่สภาพิจารณาก็จะสูญเปล่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจแก้ปัญหาประเทศเลย ถ้าจริงใจการแก้รัฐธรรมนูญควรเกิดขึ้น และไม่ควรมี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ จึงควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการหยุดอำนาจ ส.ว. ไม่ให้เข้ามาแทรกแซงในทุกกระบวนการ
ครม. ไฟเขียวแต่งตั้ง จุ๊บจิ๊บ ภรรยา ธรรมนัส นั่งตำแหน่ง ข้าราชการการเมือง
ส่วนการท่าทีและกระบวนการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในการทำร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ ทั้งร่างประชามติที่มีข้อจำกัด นำไปสู่หนังม้วนเดิมที่เคยฉาย ทั้งห้ามการรณรงค์ การวางกฎเกณฑ์พิสดารต่างๆ ทั้งที่หลักการทำประชามติ คือ การฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่การแสวงหาช่องทางดึงเวลาให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไป ไม่เห็นหัวประชาชนด้วยการหาช่องทางลิดรอนสิทธิประชาชนทางอ้อม และในอนาคต การทำประชามติควรจะลงไปสู่ระดับท้องถิ่นด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้เรื่องสาธารณะระดับจังหวัดมีข้อถกเถียงและสร้างการมีส่วนร่วมจากคนในพื้นที่
ผศ.ดร.อรุณี กล่าว การทำประชามติต้องไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพ อย่างที่รัฐบาลชุดนี้ถนัดทำมาตลอดกว่า 6 ปี กลายเป็นข้ออ้างความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่บิดเบี้ยว ทั้งที่เนื้อแท้มีการปิดปาก ห้ามการรณรงค์ ไล่จับกุมผู้เห็นต่างแล้วสร้างบรรยากาศความกลัว เพียงเพื่อต้องการครองอำนาจแบบฝืนกระแส