ภูมิธรรมแถลงยื่นทูลเกล้าฯยุบสภา ชี้การเมืองไทยเวลานี้เกิดความบิดเบี้ยวของระบบประชาธิปไตย ดึงความเชื่อมั่น คืนอำนาจให้ประชาชน
3 ก.ย. 68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ได้ตัดสินใจยื่นทูลเกล้าฯ เพื่อขอยุบสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว โดยย้ำว่าเป็นไปตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักประชาธิปไตย
นายภูมิธรรมให้เหตุผลว่า การเมืองไทยในเวลานี้เกิดความ “บิดเบี้ยว” ของระบบประชาธิปไตย จากการที่พรรคประชาชนตัดสินใจสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ในขณะเดียวกันกลับเลือกที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประเทศ
“เมื่อประเทศกำลังเผชิญปัญหาหลากหลาย หากไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ ก็สมควรคืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย” นายภูมิธรรมกล่าว
ทั้งนี้ การยื่นเรื่องดังกล่าวได้ดำเนินการแล้วตามกระบวนการรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย โดยผลสุดท้ายขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พยายามเดินหน้ารวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งสามารถรวมเสียงจากหลายพรรคการเมืองได้สูงถึง 290 เสียง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคประชาชนซึ่งมี 143 เสียง ตัดสินใจสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯแต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาล และเลือกไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตัวเลขสนับสนุนฝ่ายนายอนุทินจึงลดลงทันทีเหลือเพียง 147 เสียง
การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยลักษณะนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ท่ามกลางคำถามใหญ่ถึงเสถียรภาพและความเชื่อมั่น ทั้งในเวทีการเมืองและสังคมไทย จึงทำให้นายภูมิธรรมตัดสินใจยื่นทูลเกล้าฯยุบสภาดังกล่าว