พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ระบุว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีควรลาออกจากตำแหน่ง หลังยอมรับในระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาว่าไม่เก่งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์เคยบอกอย่างมั่นใจว่ารู้เรื่องเศรษฐกิจดี
อีกทั้งพลเอกประยุทธ์เข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเศรษฐกิจพัง และสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วง 5 ปีผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างความเป็นจริงมาก เพราะหากพลเอกประยุทธ์ยอมรับว่าตัวเองไม่เก่งแต่แรก และพยายามศึกษาหาความรู้จะพบว่ารัฐบาลบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวมาตลอด 5 ปี เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำสุดมาตลอด ซึ่งข้อมูลจาก เวิล์ดแบงก์ยังบอกว่าประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ล้านคน หรือเพิ่มถึง 38% ในช่วงการบริหารของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งแสดงถึงความล้มเหลวอย่างชัดเจน
ขณะที่สื่อหลักเศรษฐกิจในต่างประเทศยังบอกไทยเป็นคนป่วยของเอเชียมาตลอด 5 ปี และจะยิ่งป่วยหนัก เพราะเศรษฐกิจไทยก่อนเกิดวิกฤติไวรัสโควิด 19 ขยายได้เพียง 2.4% ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี และ ไตรมาสที่สุดท้ายปีที่แล้วขยายได้เพียง 1.6% เท่านั้น
นายพิชัยยังระบุว่า รัฐบาลจะต้องมีความมั่นใจว่าเงินกู้ 1.9 ล้านล้านจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะต้องไม่รั่วไหล เพราะถึงแม้รัฐบาลจะบอกว่าหนี้สาธารณะจะยังอยู่ภายในกรอบที่ 57% แต่ความจริงคือถ้ารัฐบาลบริหารเงินอัดฉีดนี้ไม่ดีพอ เศรษฐกิจไทยอาจถดถอยหนักและติดลบมาก ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทยอาจจะทะลุเกินกรอบ 60% ก็เป็นได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะการคลังของประเทศ และควรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินนี้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดการคอร์รัปชัน
ในภาวะวิกฤตินี้ ประเทศไทยต้องการผู้นำที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออก เพื่อเปิดทางให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจอย่างเท้จริงเข้ามาบริหาร เพื่อนำพาประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ เพราะถ้าพลเอกยังคงหวงตำแหน่ง ก็เท่ากับพลเอกประยุทธ์เป็นตัวถ่วงการพัฒนาของประเทศและจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยมีปัญหามากขึ้น ประชาชนจะยิ่งเดือดร้อน