ปิยบุตร เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“ความผูกพันทางการเมือง ต้องมีจุดยืนที่เห็นได้ชัดเจน
ความเห็น ความคิดอ่าน ของกลุ่มอดีตพรรคอนาคตใหม่ แต่เดิมนั้นถูกผูกขาดอยู่กับแกนนำ 3 คนเท่านั้น ด้วยวิธีการหาเสียงแบบ “ทรัมป์” คือ “การหาเสียงแบบความจริงมาทีหลัง” วิธีหาเสียงแบบนี้กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะที่ “สหรัฐฯ” ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ขึ้น ในเร็ววันนี้
ดังนั้น ปัญญาชนของสหรัฐฯ จึงเร่งมือหาทางให้ประชาชนสหรัฐฯ กลับมาใช้ความจริงเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ (Post Fact) แทน โดยใช้กันหลายวิธีแต่ที่น่าจะได้ผลมากที่สุด คือ การจัดตั้งองค์กรที่เป็นกลางและเป็นอิสระ สร้างฐานข้อมูลทางการเมืองคอยลำดับ ความจริงทางการเมือง และพฤติกรรมของนักการเมืองขึ้นมาแบบเกาหลีใต้ เพื่อให้มีทางตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
สำหรับประเทศไทยนั้นอย่าไปหวังเลยครับ ศาลยังไม่ฟังกันเลย ดังนั้นจึงเกิดประเด็นสำคัญขึ้น 2 กรณี คือ 1. การพูดของนักการเมืองในระยะนี้ มีแต่เรื่อง โควิด-19 แต่ ดร.ปิยบุตร มักจะพูดขึ้นไปหาที่สูงมากขึ้นตามลำดับ ส่วนใหญ่จะเอามาเสนอเฉพาะที่ตัวอยากพูดโดย ไม่คำนึงถึงความจริงของแต่ละเรื่องว่ามีสาเหตุจากอะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พูดไม่จบเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีมากมายเรื่องราวหลากหลายเหตุผลจนกล่าวได้ว่า เด็กที่เรียนนิติศาสตร์ปี 2 ก็พิจารณาได้แล้วว่า ทำไมต้องยุบพรรคอนาคตใหม่ 2. ประเด็นสำคัญ คือ คณะก้าวหน้า (แก็ง 3 คน) ยังมีอิทธิพลต่อพรรคก้าวไกลแบบเดิมหรือไม่ ถ้า 3 คนพูดแล้ว พรรคก้าวไกลเอาไปทำละก็ ต้องขอเตือนใว้ก่อนอาจจะเกิดกรณียุบพรรคขึ้นมาอีกก็เป็นได้แล้วก็อย่าไปโกรธแค้นใครอีก
แทนที่จะไปโทษ พี่ศรีสุวรรณ ดันกลับโทษฟ้าโทษดินให้เลาะเทอะไปเรื่อย น่าสังเวชครับ”