เพจคณะก้าวหน้า โพสต์ภาพ นาย ปิยบุตร และข้อความว่า[ ส.ว. อาจจะหน้าบาง-มียางอายมากขึ้น ! ปิยบุตร หวังกระแสสังคมกดดัน รอลุ้นดันร่างแก้ไข 3 ฉบับ สามารถทำไปพร้อมกันได้ทันทีในสมัยประชุมสภานี้ ]
ดร.นิว อัด ธนาธร – ปิยบุตร สุดยอดนักสู้ใต้กระโปรงเพื่อประชาธิปไตย
ข่าวที่ปรากฏตามหน้าสื่อ ประเด็นการเมืองที่สำคัญหนีไม่พ้นเรื่อง แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งล่าสุด คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 สภาผู้แทนราษฎร เสนอแนวทาง “แก้ไขวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ” มาตรา 256 พร้อมเพิ่มบทบัญญัตให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.
แต่ไม่ทันไร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก็ออกโรงกระโดดมาปกป้อง อาทิ สมชาย แสวงการ ไม่เห็นด้วยกับการให้มี ส.ส.ร. มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งเล่ม โดยเสนอให้แก้ไขเป็นรายมาตรา ขณะที่ พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช บอกว่าถ้าแก้มาตรา 256 เพื่อให้มี ส.ส.ร. กระบวนการจะยากมาก และเปลืองงบประมาณเนื่องจากต้องทำประชามติ จึงเสนอแก้เป็นรายมาตราเช่นกัน
เรื่องราวข่าวคราวเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น ได้รับการพูดถึงและกลับมาปรากฏในพื้นที่สื่ออีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกดดันของเยาวชน นิสิตนักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ออกมาชุมนุม พร้อมเสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อถึงรัฐบาล โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องให้มีการร่าง รัฐธรรมนูญใหม่
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ คณะก้าวหน้า วันนี้แม้ตัวเขาไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แต่ยังมีบทบาทในฐานะ กมธ. พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560
อีกทั้งก่อน กมธ. ชุดนี้จะมีมติออกมาดังกล่าว ปิยบุตรก็ได้เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 3 ฉบับ ที่เขาทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมให้ ส.ส. หรือ รัฐบาล หยิบนำไปผลักดันต่อได้ทันที ได้แก่
- ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อยกเลิกมาตรา 279 ซึ่งเป็นมาตราสุดท้ายของรัฐธรรนูญที่ให้ความคุ้มครอง รับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบรรดาประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งหมด ซึ่งหากยกเลิกไป ก็จะหมายความว่าบุคคลทั้งหลาย อาจจะสามารถโต้แย้งได้ว่าประกาศคำสั่งของ คสช. ของหัวหน้า คสช. นั้นอาจจะขัดรัฐธรรมนูญได้
- ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อยกเลิก 4 มาตราคือ 269 -272 ที่ว่าด้วยเรื่อง ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล โดยถ้ามีการยกเลิกไป ส.ว.250 คน ก็จะพ้นจากตำแหน่ง และให้กลับไปใช้วุฒิสภาตามระบบปกติของรัฐธรรมนูญที่มาจากสรรหาตามกลุ่มอาชีพ ซึ่งอำนาจของ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลก็จะหมดไปด้วย กรณี 5 ปี ให้ ส.ว. ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงร่วมออกแบบกฎหมายปฏิรูปต่างๆ อำนาจนี้จะสิ้นสุดลงทันที
- ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อปรับวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งก็คือ มาตรา 256 โดยทำให้ง่ายขึ้น คือใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา พร้อมกันนั้นก็เพิ่มบทบัญญัติว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แล้วให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
ในส่วนของข้อ 3 นั้น คือ สิ่งที่ กมธ. พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มีมติและแถลงข่าวเสนอแนวทางนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ข้อ 1 และข้อ 2 โดยเฉพาะเรื่องยกเลิก ส.ว. หลายคนอาจบอกว่า ปิยบุตร เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน เพราะจะมีหรือเมื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิก ส.ว. แล้ว ฝ่าย ส.ว. จะยกมือเห็นด้วย
โดย ปิยบุตร กล่าวในการปราศรัยที่เวทีท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า จ.สมุทรปราการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า “ถ้าพี่น้องลองกดดัน ช่วยกันกดดัน ก็อาจเป็นไปได้”
ปิยบุตร กล่าวอย่างมีความหวัง เขาชวนคิดภาพตามด้วยว่า “สมมติว่าวันนี้มีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายกันในเรื่องนี้ ส.ส. นั่งซีกหนึ่ง ขณะที่ ส.ว. นั่งซีกหนึ่ง เราก็จะได้เห็น ส.ว. 250 คน ลุกขึ้นอภิปรายเข้าข้างตัวเองว่า พวกผมดีอย่างนั้น พวกผมยอดเยี่ยมอย่างนี้ พวกผมต้องอยู่ต่อ พวกผมต้องปฏิบัติหน้าที่ แล้วพูดอย่างนี้ทั้งวัน เด็กอมมือดูก็รู้ว่าคุณพูดเพื่ออะไร คุณไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องนี้เพราะอะไร ก็เพราะประโยชน์ของคุณ คุณอยากเป็น ส.ว. ต่อ”
ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ส.ว. 250 คน หลายคนนั้นก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ว่าก็ควรจะมาด้วยวิธีการที่สง่างามกว่านี้ โดยไปสมัครเข้าเป็น ส.ว. ตามระบบปกติ ส่วนวิธีพิเศษที่ คสช.เลือกมาถึงเวลาจบได้แล้ว
“ถ้ามีการประชุมรัฐสภา อภิปรายเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น แล้วพี่น้องประชาชนยังชุมนุมกดดันเรียกร้องอยู่ ผมเชื่อว่า ส.ว. อาจจะหน้าบางมากขึ้น อาจจะมียางอายมากขึ้นที่จะไม่โหวตให้ตัวเอง เพราะมันจะดูตลกที่สุดเลยกับการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อขอยกเลิก ส.ว. 250 คน แล้ว ส.ว. 250 คนยกมือบอกไม่ให้แก้ ความชอบธรรมของวุฒิสภาจะยิ่งพังลงไปอีก ดังนั้นไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่เรื่องนี้ก็ต้องลองผลักดันดูให้ทันในสมัยประชุมนี้”
ปิยบุตร กล่าวทิ้งท้าย ฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญอย่าหยุดพูด อย่าหยุดเรียกร้อง เพราะเราถ้าหยุดเมื่อไหร่ ถ้ากระแสตกเมื่อไหร่ก็จะไม่มีการแก้เกิดขึ้น เพราะวันนี้ที่กระแสกลับมา ที่เริ่มหันมาพูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะกระแสนอกสภาที่กำลังขึ้น ดังนั้น ต้องเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ ยังมีเวลารณรงค์กันให้ทันสมัยประชุมนี้
ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง จะมีผล 19 ก.ย. 2563 ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
ส่วนจะออกมาเป็นแบบไหนนั้น รอลุ้น
อัยการสั่งไม่ฟ้อง! ปิยบุตร วิจารณ์ศาลรธน. ยุบไทยรักษาชาติ
กังวลหรือไม่ม็อบชนม็อบ? ธนาธร – ปิยบุตร มุมมอง อาชีวะ ชุมนุม