ม็อบ30พฤศจิกา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มราษฎร ที่บริเวณด้านหน้ากรมทหารราบ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ว่า เบื้องต้นการชุมนุมไม่ได้มีการแจ้งจัดการชุมนุม และผู้กำกับการ สน.บางเขน ได้ประกาศให้ยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น.แต่ผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ ชุมนุมจนถึงเวลา 22.00 น.ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลังยุติการชุมนุมมีทรัพย์สินของราชการเสียหายหลายรายการ โดยเฉพาะรถตู้ของตำรวจมีการถูกทุบทำลาย พ่นสี และปล่อยลมยาง รวมกว่า 20 คัน
รวมทั้งบริเวณสวนหย่อมของ กทม.ถูกทำลายทำให้เสียหาย และผู้ชุมนุมบางส่วนนำสีมาเทใส่พื้นที่อยู่ด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 สกปรกเลอะเทอะ ตำรวจจึงได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยงข้องเข้าตรวจสอบประเมินความเสียหาย พร้อมแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยภาพรวมของการชุมนุมเมื่อวาน พบว่าเข้าข่ายความผิดอย่างน้อย 2 ข้อหา คือ จัดการชุมนุมโดยผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนการปราศรัยของแกนนำอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
นอกจากนี้ ตำรวจยังสามารถจับกุม นายวชิระ ศรีงาม หรือเจี๊ยบ หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ไปทุบทำลาย และปล่อยลมรถตู้ตำรวจ สน.สายไหม ที่จอดอยู่ตรงป้ายรถประจำทางบริเวณใกล้กับจุดที่มีการชุมนุม ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเรียบร้อย
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ที่มีการจัดการชุมนุมจนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีทั่วประเทศไปแล้วกว่า 170 คดี เฉพาะในกรุงเทพมหานคร 110 คดี ส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว 21 คดี ส่วนเกือบทั้งหมดอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง นอกจากนี้ ยังมีคดีที่รอส่งให้อัยการอีก 4 คดี และคดีที่อยู่ระหว่างรอสอบสวนอีก 85 คดี ส่วนที่การประกาศรวมตัวชุมนุมช่วงบ่ายวันนี้ที่ สน.ชนะสงคราม และ สน.ลุมพินี เพื่อให้กำลังใจแกนนำที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการแจ้งจัดการชุมนุมแต่อย่างใด