นักการเมือง จากฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ได้รับความสนใจและพูดถึงมากที่สุด จากประชาชนทุกแขนงในปี 2563 สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง จนเกิดความขัดแย้งของคนในชาติ แม้กระทั่งสถานการณ์วิกฤตของประเทศในเรื่องโควิด-19
ฝั่งรัฐบาล
– พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้รับให้เป็นบุคคลที่กล้าตัดสินใจ จริงจังกับการพัฒนาบ้านเมือง ถนนหนทางเกิดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาทิ รถไฟฟ้าหลายสาย การแก้วิกฤตโควิดรอบแรก รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผุดโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และโครงการอื่น ๆ อีกเป็นต้น ท่ามกลางกระแสกดดันจากม็อบคณะราษฎรที่ต้องการให้ลาออกจากตำแหน่ง
– นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีผลงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้เช่น ปลดล็อกกัญชาให้ถูกกฎหมาย ผลักดันรักษาโรคมะเร็งได้ทุกโรงพยาบาล เพิ่มสิทธิรักษาทุกโรคแท้จริง รวมไปถึงสนองนโยบายการแก้ปัญหาโรคโควิดระบาดรอบแรกได้เป็นที่น่าพอใจ แต่ล่าสุดโดนทัวร์ลงว่าไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานทำให้เกิดระบาดรอบที่สอง
– นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ปีนี้มีผลหลากหลาย เช่นโครงการไทยชนะ นโยบายประชาชนเข้าถึงระบบ 5G แก้ปัญหา โครงการนำสายไฟและสายสื่อสารลงใต้ดิน อาชญากรรมออนไลน์ พนันออนไลน์ จัดการขบวนการล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ปราบเฟคนิวส์ และที่เรียกเสียงฮือฮาจากสังคมด้วยการสั่งปิดเวปไซต์ลามกอนาจาร อย่าง PORN HUB ซึ่งตามมาด้วยการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย ว่าเข้าข่ายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
– น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะต้องคดีบุกรุกป่า เป็นที่จับตาของสังคมอีกหนึ่งคดี จนในที่สุด เอ๋ ปารีณา ยอมมอบหนังสือขอคืนที่ดิน ส.ป.ก. “โดยระบุว่า ด้วยข้าพเจ้า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ได้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม บริเวณ หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และข้าพเจ้าได้ยื่นชำระภาษีบำรุงท้องที่ ข้าพเจ้ามีความประสงค์ของคืนพื้นที่ตาม ภ.บ.ท.5 ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขอสงวนการใช้สิทธิเป็นอันดับแรกตามที่กฎหมายกำหนด และยินดีเข้าให้ถ้อยคำ และให้ความร่วมมือกับทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทุกประการ”
รวมถึงเป็นโล่ห์ป้องกันให้กับรัฐบาลและนายกฯ เพราะเดินหน้าฟ้องร้องเอาผิดฝ่ายตรงข้ามที่จ้องเล่นงานแทบทุกเรื่องแบบไม่ไว้หน้าใคร
ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
– นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยเมื่อต้นปี63 นายธนาธร โดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงิน “ธนาธร” 191ล้านบาท เพิกถอนสิทธิทางการเมืองแก่กรรมการบริหารพรรค 10 ปี กระทั่งถือกำเนิดกลุ่มการเมืองนอกสภาคือ คณะก้าวหน้า จนนำไปสู่การเคลื่อนไหวชุมนุมอันร้อนแรง เพราะเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และมวลชน ที่ต้องการให้นายกฯลุงตู่ ลาออก
– คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอยู่ไม่น้อยที่ คุณหญิงหน่อย ตัดสินใจครั้งใหญ่คือลาออกจากพรรคเพื่อไทย ยุติสัมพันธ์อันยาวนานกับอดีตนายกฯทักษิณ โดยให้เหตุผล 3 เรื่อง คือ 1.ความไม่ชัดเจนของกรรมการบริหารพรรค เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 2.มีการตั้งกรรมการและอนุกรรมการใหม่ แทนทีมคุณหญิงสุดารัตน์ โดยไม่มีชื่อบุคคลในเครือข่าย ส.ส. ทีมของคุณหญิงสุดารัตน์ แม้แต่คณะเดียว 3.การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ที่ไม่อนุญาตให้คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง
แถมไม่ได้ออกไปคนเดียว แต่ยังทำให้ นายโภคิน พลกุล ฝ่ายกฎหมายพรรเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข คนสนิทของทักษิณ และคนอื่นออกตามไปด้วย
– ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ส.ส.ที่เหลือของอนาคตใหม่ได้ย้ายไปร่วมกับ พรรคก้าวไกล ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้น โดยมี ทิม พิธา เป็นหัวเรือใหญ่ และยังคอยทำหน้าที่ฝ่ายค้านคอยถ่วงดุลการใช้อำนาจในสภาผู้แทน รวมถึงยังออกหน้าร่วมลงถนนชุมนุมกับมวลชนจนโดนแก๊สน้ำตา เพื่อขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และหวังปฎิรูปสถาบันกษัตริย์ และยังตกเป็นจำเลยคดีแฟลชม็อบร่วมกันกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, นางสาวพรรณิการ์ วานิช
โดยคดีดังกล่าวยังมีจำเลยอีก 3 คน คือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร 2563, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือ บอล ซึ่งอัยการกำลังขอพิจารณาคดีทั้งหมดอยู่ ส่วนศาลจะมีความคืบหน้าในวันที่ 8 ก.พ. 2564
– พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นที่รู้ดีว่าเวลาอภิปรายในสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มักจะดุเดือดเผ็ดร้อน และยังเปิดฉากด่าพล.อ.ประยุทธ์ อย่างดุเดือด เช่นประโยค “I here too” นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังเห็นควรให้รัฐบาลฟังข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ออกมาชุมนุมขับไล่ และต้องการให้รัฐบาลรีบแก้รัฐธรรมนูญ นำร่างฉบับประชาชนเป็นหลักในการพิจารณา รวมถึงยังปัดเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ เพราะมองว่าสัดส่วนบุคคลที่เชิญเข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ ไม่ถูกต้องและไม่มีความเป็นธรรม
และล่าสุด ยังดำเนินการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนการเป็น ส.ส. ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมั่นใจว่าขาดคุณสมบัติแน่นอน โดยตั้งใจจะตัดรากถอนโคนเหล่าบรรดาผู้พิทักษ์นายกฯไปเป็นคน ๆ เพราะได้ไปขุดคุ้ยคดีที่นายสิระเคยต้องคำพิพากษาจำคุกมาก่อน โดยไม่กลัวหากโดนนายสิระ ฟ้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท
รวมถึงได้ยื่นประธานสภาฯเพื่อส่งไปศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรณียุบเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป ซึ่งชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่