อู๋-จุฑาพร ผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย โต้ดราม่า แย่งที่ปิดป้ายหาเสียง

ศึกเลือกตั้งร้อนระอุ อู๋-จุฑาพร ผู้สมัคร สส. กทม. เขต สาทร ปทุมวัน บางรัก “พรรคเพื่อไทย” โต้กระแสดราม่า แย่งที่ปิดป้ายหาเสียง เลิกการเมืองแบบเก่า

วันที่ (01 ก.พ. 66) อาจารย์อู๋ หรือ นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ผู้สมัคร สส. กทม. เขต สาทร ปทุมวัน บางรัก และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จุฑาพร เกตุราทร – Juthaporn Kateratorn โต้แย่งหลังตกเป็นประเด็นดราม่าถูกกล่าวหาว่าแย่งที่ปิดป้ายหาเสียง ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลอยู่ตอนนี้

ทั้งนี้ อู๋-จุฑาพร เขียนข้อความชี้แจงระบุว่า วันนี้อู๋ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการเขียนชี้แจงถึงกรณี ว่าที่ผู้สมัครส.ส. ของพรรคการเมืองหนึ่งมีการโพสต์ลงในสื่อ Social ในทำนองว่า ป้ายของตนเองนั้นถูกถอดออก แล้วมีป้ายของพรรคการเมืองอื่นมาติดแทน ซึ่งทำให้ผู้อ่านโพสต์ดังกล่าวอาจเข้าใจผิดในลักษณะว่าทางอู๋เป็นผู้เก็บป้าย แล้วเอาป้ายของตัวเองมาติดตั้งแทน ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ทำให้คนที่เข้ามาอ่านโพสต์คอมเมนต์ไปในทางดูถูกเกลียดชัง อันเป็นการนำข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริงโดยขาดการพิสูจน์ อย่างวิญญูชนพึงกระทำ

ความตั้งใจที่จะเข้าสู่การเมืองของอู๋ คือต้องการเห็นการเมืองไทยพัฒนา ไปในแนวทางที่ดีขึ้น เพื่อประเทศไทยจะได้พัฒนาต่อไป คนเราจะต้องมีมารยาททางการเมือง ดังนั้น อู๋ขอยืนยันว่าทีมงานที่ส่งไปติดป้ายไม่ได้มีการโยกย้ายป้ายของใครออกไปแต่อย่างใด และขออย่าใช้วิธีการใส่ร้ายเพื่อมุ่งหวังผลทางการเมืองในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน และประจักษ์พยานยืนยันข้อเท็จจริง การกล่าวหาผู้อื่นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ในส่วนของป้ายของอู๋เองก็มีหาย และถูกเจาะทำลายหลายจุดเช่นกัน แต่ที่ยังไม่ได้ออกมาพูดในเรื่องนี้ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและหาข้อมูลความจริงอย่างแน่ชัดก่อน เลยไม่อยากนำมาเป็นประเด็นสาระสำคัญ เพราะเวลานี้ปัญหาที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเทศต้องเดินต่อไป โดยมีผู้บริหารที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม นำพาประเทศไทยไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิม และทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในเวทีโลก

ขออย่าได้นำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองเลยค่ะ เราในฐานะคนรุ่นใหม่ บุคลากรที่สังคมคาดหวังให้มาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ควรจะช่วยกันพัฒนาการเมืองแบบสร้างสรรค์จะดีกว่าการจะทำการเมืองแบบเก่า ทั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ด้วยกันแล้ว ประเทศต้องพัฒนาแล้วนะคะ และความคิดก็ต้องพัฒนาด้วย เพื่อที่เราจะได้ช่วยกันต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคมจะดีกว่า