พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยถึงแนวทางผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม มาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในเรื่องการสัญจร การเดินทางในทุกพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีมาตรการรองรับว่าจะปกป้อง ป้องกัน โควิด-19 ได้อย่างไร ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ก็กำลังทยอยดำเนินการในการหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือศบค.รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน
โดยสิ่งสำคัญที่สุดเป้าหมายสุดท้ายคือ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ขึ้นมาอีก เพราะเป็นการเคลื่อนที่ของประชาชนจำนวนมากในช่วงสงกรานต์ ซึ่งตนก็อยากให้ช่วงสงกรานต์เศรษฐกิจเดินหน้า ทั้งเรื่องการค้าขาย การท่องเที่ยว โรงแรมต่าง ๆ ให้มีรายได้ เพื่อฟื้นฟูสร้างรายได้ที่หายไปช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทันเวลา และจะมีความชัดเจนก่อนสงกรานต์แน่ เพื่อให้ทันต่อการวางแผนเดินทางล่วงหน้า รวมถึงการจองที่พักโรงแรม ไม่ใช่ประกาศตอนวันสงกรานต์
ส่วนเรื่องของวัคซีน เมื่อเช้าก็ได้มีการประชุมเร่งรัดในเรื่องการพิจารณาพาสปอร์ตวัคซีนโควิด-19 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO)จะมีการกำหนดมาตรฐานกลางออกมา เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกได้ใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นพาสปอร์ตปกติ แต่จะดูเรื่องการฉีดวัคซีนครบหรือยัง เพื่อลดปัญหาการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด โดยกำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่
สำหรับเรื่องการนำเข้าวัคซีนเมื่อเช้าวันที่ 8 มี.ค.ได้เรียกผู้ประกอบการโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนหรือกลุ่มต่าง ๆ ที่จะนำวัคซีนเข้ามาในประเทศ ก็ต้องเป็นวัคซีนที่มีการรับรอง และต้องสามารถชี้แจงได้ว่าวัคซีนได้มาได้อย่างไร จำนวนเท่าไหร่ มีการพูดคุยเจรจาถึงไหนอย่างไร เพราะหากเปิดให้นำเข้าโดยอิสระจะควบคุมกันลำบาก เนื่องจากวันนี้มันมีวัคซีนหลายตัวที่ยังไม่ผ่านการรับรอง ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่ามีการปลอมปนแล้วหรือยัง จึงจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใคร เอื้อประโยชน์ให้ใคร นั้นคือส่ิงที่ดำเนินการมาตลอดในทุก ๆ เรื่อง