นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “วุฒิสภาต้องเลิกการไปศึกษาดูงานต่างประเทศ” โดยระบุว่า
“ตอนนี้ก็ใกล้จะปิดสมัยประชุมรัฐสภาภายในเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ผมว่าวุฒิสภาในสมัยนี้ มีที่มาเปราะบางในความรู้สึกของพี่น้องประชาชน การที่ สมาชิกวุฒิสภา ในชุดนี้จะทำอะไร ก็จะต้องมีความตระหนักในความคิดของประชาชนทั่วไป
ผมเป็นประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ย่อมทราบและเข้าใจในความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อพฤติกรรมของนักการเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมานับสิบปี และเข้าใจในพฤติกรรมของนักการเมืองที่ผ่านมา และผมมักจะบอกสมาชิกวุฒิสภาในคณะกรรมาธิการของผมมาตลอดว่า ความเปราะบางของวุฒิสภาในชุดนี้มีมาก ดังนั้น การรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองและของพี่น้องประชาชนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกวุฒิสภาในชุดนี้จะต้องตระหนัก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยไม่กระทำในสิ่งที่สวนทางกับความรู้สึกนึกคิดของประชาชน ที่นักการเมืองในยุคก่อนเขาทำกัน
ที่นักการเมืองในยุคปัจจุบันก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม เช่น การใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของประชาชนไปศึกษาดูงาน(ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ) ที่มักจะไปกันในทุกช่วงเวลาปิดสมัยประชุม ซึ่ง 1 ปี มีการปิดสมัยประชุม 2 ครั้ง อันเท่ากับว่า จะมีการไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศได้ปีละ 2 ครั้ง
บางคนอาจจะบอกว่าการไปศึกษาดูงานแล้วเป็นเรื่องได้ประโยชน์ ซึ่งมันอาจจะได้ประโยชน์จริงๆก็ได้ ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลของคนที่อยากไป ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้ว มันได้ประโยชน์แต่น้อยกว่าเสียประโยชน์ เพราะในความรู้สึกของชาวบ้านและสื่อมวลชนไม่ได้คิดเช่นนั้น
และที่ผ่านมาในการเดินทางไปต่างประเทศของวุฒิสภาสมัยก่อนๆ ก็จะมีบริษัททัวร์มาคอยรับจัดการเดินทางไปประเทศที่น่าท่องเที่ยวหรือที่ตนสนใจ ขึ้นเครื่องบินในชั้นธุรกิจ มีเบี้ยเลี้ยง ที่พักดี อาหารดี ด้วยงบประมาณจากภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น และบางคนยังพาคนนอกไปอีก และทุกๆปี สื่อมวลชนก็จะลงข่าว ประณามว่า เป็นการ “ผลาญงบ” พร้อมเสียงกร่นด่าของประชาชน
สิ่งต่างเหล่านี้ เป็นปรากฏการณ์ที่วุฒิสภาในชุดปัจจุบัน ควรต้องตระหนักที่จะไม่ใช้งบประมาณในลักษณะเช่นนั้น
ยุคปัจจุบันผมเชื่อว่า หากมีการใช้งบประมาณไปในลักษณะนี้ จะต้องถูกตรวจสอบจากภาคประชาชนและภาคองค์กรอิสระแน่นอนว่าใช้เงินไปในทางที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตน หรือไม่ อันจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน ประเทศเกิดปัญหาด้านต่างๆหลายด้าน ที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น บ้านเมืองเกิดวิกฤติแห้งแล้ง ขาดน้ำ ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกิดโรคระบาด ของเชื้อ ไวรัสโคโรนา ทำให้เกิดการเจ็บป่วยล้มตาย ถึงขนาดไม่มีคนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ทำให้ประเทศขาดรายได้ การดำเนินชีวิตของประชาชนอยู่บนความเสี่ยงภัย เกิดปัญหาเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชน ไม่อาจทำมาค้าขายได้ รายได้ที่ได้รับก็ไม่พอเพียงต่อการดำรงชีวิต
การใช้จ่ายในประเทศฝืดเคือง และกฎหมายงบประมาณของปี 63 ก็ยังไม่ออกยังติดอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ฝุ่นพิษ PM 2.5ที่สร้างความเดือดร้อนก็มีผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนที่ขยายตัวไปทั่ว
สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นความทุกข์ยากของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
การใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของประชาชน สมาชิกวุฒิสภา จึงต้องตระหนักและเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะไมใช้งบประมาณเหล่านั้น ให้เป็นที่ขัดเคืองใจของประชาชนทั้งประเทศ
ตอนนี้ ใกล้จะปิดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว ก็หวังว่าอะไรที่เป็นสิ่งไม่ดีไม่งามไม่ควรจะเกิดขึ้นกับสมาชิกวุฒิสภาในชุดนี้
เสรี สุวรรณภานนท์”