ตัดไม่ให้เหลือตอ! สว.สมชาย จี้ กกต. รีบยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ ‘พรรคก้าวไกล’ ปม ‘ล้มล้างการปกครอ’ ลั่น ไม่มีเหตุต้องไต่สวนอีก
วันที่ 6 มี.ค. 67 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวการยื่น ยุบพรรคก้าวไกล ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดนระบุว่า “กกต.มีหน้าที่” พรป.พรรคการเมืองมาตรา 92 “เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด…..ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น. (1)กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

พร้อมทั้งยังยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอีกว่า “คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่3/2567 ที่วินิจฉัยว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา49วรรคหนึ่ง คือหลักฐานที่กกตควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทำการตามที่ศาลวินิฉัยแล้ว”
- ทำไปได้! รด.ชายสุดแสบ แก้แค้นครูฝึกด้วยวิธีสุดสกปรก ใครเห็นเป็นอี๋ (มีคลิป)
- งานเข้า! คดีบุกรุก ครอบครองปรปักษ์ อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ข้อหาหนัก
- เพื่อนบ้านแฉ ฝรั่งต่อยหญิงไทย มีพฤติกรรมสุดแปลก จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้
รัฐธรรมนูญ มาตรา 211 คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาลองค์กรอิสระและหน่วยงานรัฐ “จึงไม่มีเหตุอื่นที่กกตให้กกตต้องใช้เวลาไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานอื่นใดอีก กกตมีหน้าที่ต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคเท่านั้น ฝากย้ำอีกครั้งด้วยความหวังดี” ดร.สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา

ทั้งนี้ ผลการพิจารณา ในคดีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิ หรือ เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74