พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ขานรับภาคประชาชน ร่วมผลักดัน บำนาญแห่งชาติ ปักหมุดสร้างสวัสดิการพื้นฐานถ้วนหน้า โดยระบุว่า เมื่อครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ พวกเราเคยมีความฝันที่อยากจะเห็น ‘ไทยเท่าเทียม สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร’ ต่อมา เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปโดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คน ในวันนี้ เมื่อพวกเราเดินทางกันต่อในนามพรรคก้าวไกล ก็ยังไม่ลืมความฝันและยังมีอุดมการณ์คงเดิม มุ่งทำงานต่อจากที่เคยทำไว้เมื่อครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ เพื่อไปสู่เป้าหมายสร้างรัฐสวัสดิการที่ถ้วนหน้าครบวงจรให้เกิดขึ้นจริงในประเทศแห่งนี้
ชัยธวัช ชี้รัฐถ้ามีเจตนาจริงอย่ายื้อเวลา เริ่มแก้ รธน. ทำได้ทันทีในสมัยประชุมนี้
ในปัจจุบันหลักประกันของประชาชนชาวไทย ในกรณีของผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป มีระบบบำนาญเพื่อเป็นหลักประกันทางรายได้สำหรับผู้สูงอายุหลายระบบ โดยรัฐดำเนินการเพื่อจ่ายเป็นรายได้รายเดือนไปตลอดช่วงชีวิตของผู้สูงอายุ การใช้จ่ายเงินงบประมาณตรงนี้มีหลายรูปแบบด้วยกัน อาทิ การจ่ายเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การจ่ายเป็นบำเหน็จบำนาญให้ข้าราชการและข้าราชการส่วนท้องถิ่น การสมทบเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนของครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ นอกจากนี้รัฐยังบังคับให้นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจ่ายเงินเข้าในกองทุนบำนาญภายใต้กฎหมายประกันสังคม
แต่ปัญหาของประเทศไทยคือหลักประกันที่มีอยู่หลากหลายนั้นพบว่าหลายรูปแบบไม่สามารถเป็นหลักประกันทางรายได้ที่เพียงพอหลังเกษียณได้ และมีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก หรือมีความแตกต่างกันมากระหว่างกลุ่มอาชีพ เช่น ระหว่างข้าราชการและลูกจ้างเอกชน อีกทั้ง การจัดตั้งกองทุนสํารองเลี้ยงชีพซึ่งเป็นกองทุนการออมเพื่อการชราภาพในภาคสมัครใจให้กับลูกจ้างเอกชน ก็ยังมีการจัดตั้งเป็นจํานวนน้อย ทําให้ไม่ครอบคลุมลูกจ้างเอกชนทุกราย ยิ่งไปกว่านั้นการจ่ายเงินของภาครัฐยังมีลักษณะเป็นการสงเคราะห์มากกว่าการเป็นสวัสดิการพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนต้องได้รับ
เพื่อทำให้ความฝันของพวกเราและพี่น้องประชาชนเกิดขึ้นจริงและเป็นรูปธรรมมากขึ้น พรรคก้าวไกลจึงพยายามผลักดันและยื่นร่างกฎหมาย “พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า พ.ศ. …” ประกบกับร่างกฎหมายที่ยื่นโดยภาคประชาชน เนื่องจากหากร่าง พ.ร.บ. บำนาญแห่งชาติ สามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ จะถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการสร้างรัฐสวัสดิการที่เป็นจริงตามอุดมการณ์และเจตนารมณ์ของพรรค ภายใต้หลักการที่ว่าสวัสดิการเป็นสิทธิอันพึงมีของประชาชน มิใช่การสงเคราะห์ จะต้องไม่มีความแตกต่างเหลื่อมล้ำกันระหว่างประชาชนในอาชีพต่างๆ
รังสิมันต์ โรม เตือนบิ๊กแดง อย่าพล่ามเรื่องการเมือง พร้อมทวงถามปฏิรูปกองทัพไปถึงไหนแล้ว
คณะประชาชนปลดแอก ชี้ วลี ชังชาติ เป็นเครื่องมือทางการเมืองโบราณ ไม่ควรให้ค่า
ทั้งนี้ ระบบสวัสดิการควรจะต้องเป็นระบบเดียวกัน เป็นพื้นฐานแบบถ้วนหน้าทั่วถึงและเท่าเทียม สามารถยกระดับให้ประชาชนทุกคนเมื่ออายุถึง 60 ปี มีสิทธิได้รับบำนาญแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักประกันทางรายได้เมื่อสูงอายุ และต้องถือว่าสิ่งนี้เป็นสิทธิที่จำเป็นและต้องมีจำนวนเงินที่เพียงพอ เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยเงินบำนาญจะมีความหมายกว้างกว่าแค่คนที่ทำงานในระบบราชการเท่านั้น แต่คือประชาชนคนไทยทุกคนที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ต้องได้รับอย่างเสมอภาค ถ้วนหน้า และเท่าเทียม