วันที่ 28 เมษายน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรค ก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ปกป้องคุ้มครองสิทธิในการแสดงออกโดยสันติ ทั้งของประชาชนและสื่อมวลชน ตรวจสอบอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรมและปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น ขอยืนยันว่าการแสดงออกของประชาชนในรูปแบบของการชุมนุม การแสดงความคิดเห็นสาธารณะต่อรัฐ เป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นเสียงที่รัฐจะต้องฟังด้วยความเคารพ และเชื่อมั่นในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาและประชาชนว่า เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ความตื่นตัวทางการเมืองของนักศึกษา เป็นสิ่งที่สวยงามและจำเป็นของประชาธิปไตย
“การที่ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง วุฒิสภาออกมาแสดงออกหลายครั้งถึงการสนับสนุนรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และล่าสุดยังดูถูก ใส่ร้ายว่า นักศึกษาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายหนึ่ง รับผลประโยชน์ และนักศึกษาควรจะทำหน้าที่ของตน คือ การเรียน นี่คือทัศนคติที่ผิด และยิ่งชัดเจนว่า ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. เป็นความเลวร้ายที่บั่นทอนการพัฒนาการเมืองอย่างแท้จริง” นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ผมอยากฝากไปยังคุณเสรี คุณควรเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ และฟังสิ่งที่ประชาชนสะท้อนถึงความล้มเหลวและเลวร้ายของรัฐบาลชุดนี้ คุณจะใช้สถานการณ์โควิดมาอ้างก็ฟังไม่ขึ้น เพราะตั้งแต่ก่อนโควิด การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรม ไม่มีประสิทธิภาพ และมีความอื้อฉาวด้านศีลธรรมและการคอรัปชันเต็มไปหมด ระบอบ คสช. ที่เป็นมะเร็งร้าย แฝงอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสภาและองค์กรอิสระ ใคร ๆ ก็ดูออกครับ เลิกดูถูกประชาชนเสียที
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ไม่ใช่การลืมหรือซ่อนขยะใต้พรม ไม่ว่าจะความอื้อฉาวของการกักตุนหน้ากาก ความล้มเหลวในการเยียวยาประชาชนผ่านโครงการต่าง ๆ ประชาชนอดอยาก ทุกข์ยากทั่วประเทศ ท่านไม่รับรู้เรื่องเหล่านี้หรือ หรือรับรู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ
นายปดิพัทธ์ กล่าวย้ำอีกว่า ถ้า คุณเสรี เป็นประธานกรรมาธิการชุดนี้ แต่ไม่เชื่อในสิทธิการแสดงออกของประชาชน ก็ยิ่งสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่า ส.ว.กลายเป็นส่วนเกินของระบอบประชาธิปไตย และทำให้ข้อเสนอ เรื่องสภาเดี่ยว (ตัด ส.ว.แต่งตั้งทิ้ง คงไว้แค่ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน) เป็นข้อเสนอที่มีน้ำหนักขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองภาษีของประชาชน และทำงานสวนทางกับกรรมาธิการของสภา รวมทั้งผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาการเมืองของประเทศไทย