รังสิมันต์ โรม หอบ 55 ส.ส.ก้าวไกล เข้าชื่อเสนอ “ชวน” ประธานสภาฯ ต้านพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อ้างกระทบเสรีภาพ ลามแซะสภาฯแค่เสือกระดาษ
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 โดยมี ส.ส. ของพรรคจำนวน 55 คน จะเข้าชื่อเสนอต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลยังคงการใช้พระราชกำหนดเอาไว้ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ไม่เห็นด้วยกับการคงไว้ ซึ่งพระราชกำหนดจึงเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพอย่างยิ่ง แม้จะมีการอ้างเรื่องการคุมโควิด แต่วันนี้ไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป และไม่ใช่การแก้ไขสถานการณ์โควิด แต่จะเป็นการป้องกันไม่ให้วิจารณ์รัฐบาล
“วันนี้สภาฯทำอะไรไม่ได้เลย เป็นแค่เสือกระดาษที่ตรวจสอบการใช้อำนาจตามพระราชกำหนดของรัฐบาล ในเมื่อรัฐบาลไม่ยกเลิกพระราชกำหนด พรรคก้าวไกลจึงเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขพระราชกำหนด” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าว สำหรับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะมีผลเป็นการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงจากพระราชกำหนดโดยมีสาระสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
1.ให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยฝ่ายบริหารสามารถใช้บังคับได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรภายใน 7 วันนับแต่วันประกาศ รวมถึงในการขยายระยะเวลาแต่ละครั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน และหลังสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วนายกรัฐมนตรีจะต้องทำรายงานผลการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วย
- ยกเลิกอำนาจในการออกข้อกำหนดห้ามนำเสนอข่าวสาร เพื่อให้สื่อมีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
- ยกเลิกข้อยกเว้นที่ให้ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง และยกเลิกข้อยกเว้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เพื่อให้การใช้อำนาจภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถูกตรวจสอบได้โดยองค์กรตุลาการ
- ในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยภายใต้การประกาศสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง จะต้องดำเนินการด้วยกระบวนการปรกติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่น ควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง, ต้องควบคุมตัวภายในสถานีตำรวจที่ญาติและทนายความเข้าถึงได้
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าผลักดันร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผู้ใช้อำนาจมีความรับผิดชอบต่อประชาชน และใช้อำนาจที่ประชาชนมอบหมายให้แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริงรวมไปถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดขานแดนภาคใต้ด้วย