รังสิมันต์ โรม ซัด ฝ่ายรัฐบาล ไม่เห็นด้วยตั้งส.ส.ร. เพราะ กลัวเสีย มรดก คสช.

วันที่ 24 กันยายน 63 ที่รัฐสภา นาย รังสิมันต์ โรม สงส. พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ถึงประเด็นวการจัดตั้งส.ส.ร. การยกเลิกอำนาจพิเศษของ ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล, การยกเลิกการรับรองความชอบของประกาศและคำสั่งของ คสช. และการแก้ไขระบบการเลือกตั้ง โดยระบุว่า

ไมค์ ระยอง ขู่เตรียมปักหลักชุมนุมยืดเยื้อเดือนหน้า หากส.ว.คว่ำญัตติแก้รัฐธรรมนูญ

โบว์ขาวเบิ้มๆ – หมุดคณะราษฎร 2563 โผล่อีก! หน้ารัฐสภาวันนี้ จะเอาออกยังไง!

ก่อนอื่นผมขอทำความเข้าใจหลากหลายเหตุผลก่อนที่ถูกหยิบยกมาใช้ในการถกเถียงในสภาแห่งนี้ และขณะนี้เริ่มปรากฎข่าวออกมาแล้วว่าวุฒิสภาจะคว่ำร่างทั้งหมดทุกร่าง ไม่ว่าร่างนั้นจะถูกเสนอโดยฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

ผมเข้าใจดีว่า เพราะเหตุใดสมาชิกหลายท่านจึงไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร. ท่านรู้ดีว่านี่คือโอกาสที่เวที สสร จะกลายเป็นเวทีที่ตัวแทนประชาชนจะออกแบบรัฐธรรมนูญในแบบที่ประชาชนต้องการ และรัฐธรรมนูญที่ประชาชนต้องการย่อมไม่มีพื้นที่สำหรับมรดกทั้งหลายที่ คสช. ส่งมอบให้กับลูกหลาน

อัดแน่นแบบเบิ้มๆ! เปิดตัว ผู้ปราศรัย ม็อบ ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา เย็นนี้!

ผมเข้าใจดีว่า เพราะเหตุใดท่านสมาชิกจึงไม่เห็นด้วยกับการที่ ส.ส. เสนอให้ตัดอำนาจ ส.ว. ในการโหวตกฎหมายปฏิรูปที่เป็นการทำหน้าที่เฉกเช่นเดียวกับ ส.ส. เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 270-271 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าหากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แม้ไม่ได้รับเสียงข้างมากในสภา ท่านจะสามารถอาศัยมาตราดังกล่าวเพื่อให้ ส.ว. ซึ่งคิดเป็นเสียง 1 ใน 3 ผ่านกฎหมายให้กับรัฐบาลได้ รัฐบาลก็จะมีความมั่นคงสถาพรตามแผนที่วางเอาไว้

ผมเข้าใจดีว่า เพราะเหตุใดท่านสมาชิกจึงไม่เห็นด้วยกับการที่พวกเราจะตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งพวกท่านมีความเห็นว่าในปฐพีนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่ดีไปกว่า พล.อ. ประยุทธ์ และหากสละซึ่งมาตรานี้บุคคลซึ่งอาจจะกลายเป็นายกรัฐมนตรีคนถัดไปซึ่งประชาชนเลือกมา อาจจะไม่ใช่บุคคลที่ท่านปรารถนา

ผมเข้าใจดีว่า เพราะเหตุใดท่านจึงไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ที่รับรองประกาศ คำสั่ง คสช. เพราะพวกท่านตระหนักดีว่าหากการยกเลิกหลักการนี้ได้ การรัฐประหารในอนาคตจะไม่ศักดิ์สิทธิอีกต่อไป และจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ฟ้องดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุุทธ์ได้

นอกจากความเห็นแย้งของ ส.ว. ต่อร่างต่างๆ ที่ฝ่ายค้านยื่น ส.ว. หลายท่านยังเป็นกังวลต่อการใช้งบประมาณที่อาจจะมีจำนวนมากถึง 15,000 ล้านบาทในการทำประชามติ ซึ่งการใช้เงินจำนวนนี้ในสภาวะประเทศเป็นเช่นนี้อาจจะสร้างความกังวลให้หลายฝ่ายว่าเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ ผมต้องเรียนอย่างนี้ว่านี่คือการลงทุน เพื่อเอาประเทศออกจากความขัดแย้ง แน่นอนว่าอาจจะเป็นเม็ดเงินที่สูง แต่ผมคิดว่าคุ้ม และยังเป็นจำนวนที่ประเทศยังสามารถจัดการได้ ถามว่าจัดการอย่างไร เอาแค่เราเลิกซื้อเรือดำน้ำ 1 ลำ แล้วนำเงินดังกล่าวไปใช้เพื่อลงประชามติเพื่อสร้างโอกาสที่ประเทศไทยจะออกจากความขัดแย้งได้ ผมคิดว่าคุ้มมาก

นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาบางท่านอาจกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ ถูกต้องครับ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านประชามติ แต่การผ่านประชามติไม่ได้ลบความจริงที่ว่าการรณรงค์ของฝ่ายไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาสาระไม่ต่างจากผู้อภิปรายหลายๆ ท่านในวันนี้ ต่างแค่เพียงการพูดในวันนั้นของผู้รณรงค์ คือ การจับกุม คุมขังผู้รณรงค์ และดำเนินคดีที่มีอัตราโทษสูงถึง 10 ปี ส่งผลให้สุดท้ายประชาชนขาดโอกาสที่จะทราบถึงความเลวร้ายนี้ ชัยชนะในวันนั้น จึงตั้งอยู่บนคราบน้ำตา และความเจ็บปวดของประชาชน

มีเพื่อนสมาชิกรัฐสภาหลายคนตั้งคำถามต่อการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งหมดที่เสนอเข้ามาในวาระนี้ ว่าสุดท้ายแล้วเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่? ผมเห็นว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ดี จึงขอใช้โอกาสนี้เพื่ออธิบายเรื่องนี้โดยละเอียดครับ

เป้าหมายของการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในครั้งนี้ คือจะต้องนำไปสู่การสร้าง “ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ” อย่างแท้จริง

หลายท่านได้ยินแล้วอาจสงสัย ว่าแล้วประเทศเราไม่ได้มีระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญหรืออย่างไร? ผมคิดว่าหากพวกท่านไม่ได้อยู่แต่บนหอคอยงาช้าง หากพวกท่านได้ติดตามการชุมนุมของประชาชนข้างนอกบ้าง หากพวกท่านได้ใช้โซเชียลมีเดีย หากพวกท่านไปเข้าโรงหนังในช่วงหลังๆ นี้ หากพวกท่านบังเอิญไปอยู่ในวงซุบซิบนินทาสักวงหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่าพวกท่านทุกคนเคยแน่ๆ หรือแม้กระทั่งหากพวกท่านฟังเสียงของลูกหลานของพวกท่านเองบ้าง พวกท่านย่อมเห็นและควรยอมรับได้แล้ว ว่าทุกวันนี้ประชาชนในประเทศ ต่างมีข้อกังขาต่อสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” มากขึ้นเรื่อยๆ และดังขึ้นทุกทีๆ สิ่งที่พวกเขากังขาไม่ใช่แค่ความเป็นประชาธิปไตย ที่เราต่างล้วนรู้ดีกันอยู่แล้วว่าบ้านเมืองเราไม่ได้เป็นจริงๆ แต่ยังรวมถึงสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อการเมืองไทยด้วย

ประชาชนรู้ว่าพระมหากษัตริย์พำนักอยู่ที่ไหน พวกเขารู้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีบทบาทต่อการจราจรในเมืองอย่างไร พวกเขารู้ว่างบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกใช้ไปกับเรื่องใดบ้าง พวกเขารู้ด้วยว่างบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เรื่องใดที่ถูกปิดไม่ให้พวกเขารับรู้ พวกเขารู้ว่ากฎหมายที่ออกมานั้นได้เพิ่มพูนและรวมศูนย์อำนาจไว้ที่สถาบันพระมหากษัตริย์มากน้อยเพียงใด พวกเขารู้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ถูกรัฐและกลุ่มการเมืองใช้เป็นข้ออ้างเพื่อทำอะไรบ้าง พวกเขารู้ว่าใครได้ประโยชน์จากสถานะที่เป็นอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกเขารู้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ตรงไหนในสถานการณ์แห่งความขัดแย้งในประเทศนี้

พวกเขารู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่เป็นคุณต่อประชาชนอย่างพวกเขาเอง และรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญจริงๆ

แต่ที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะเกิดกระบวนการที่ผมต้องขอยืมคำพูดของทนายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำประชาชนผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาว่าเป็น “กระบวนการที่ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ขยับออกไปไกลห่างจากระบอบประชาธิปไตย” ซึ่งการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และการจัดทำรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ขึ้นมาก็เป็นหนึ่งในกระบวนการที่ว่านี้ด้วย ด้วยเหตุนี้โจทย์ใหญ่ที่สุดนับจากนี้ไปในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็คือการนำสถาบันพระมหากษัตริย์กลับเข้ามาให้ใกล้ชิดกับระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง

แล้วระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นอย่างไร? ในทรรศนะของผม ระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นจะต้องมีคุณลักษณะของความเป็นประชาธิปไตยอย่างครบถ้วน กล่าวคือจะต้องถือมติของเสียงข้างมากโดยยังรับฟังเสียงข้างน้อย องค์กรตามรัฐธรรมนูญมีที่มาหรือความยึดโยงกับประชาชน มีการรับรองและคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน มีการแบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ มีกลไกตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้โดยที่ไม่เป็นการบั่นทอนหรือทำลายล้างหลักเสียงข้างมากหรือสิทธิเสรีภาพของประชาชนเสียเอง

และมากไปกว่านั้น สถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่ดำรงอยู่ในสังคมมาแต่เดิม แต่วันนี้กลับเป็นแหล่งอ้างอิงของบรรดาผู้ปกครอง ขุนนางอำมาตย์ กองทัพ นายทุน และชนชั้นนำต่างๆ ในการแทรกแซงทางการเมือง ใช้อำนาจกดทับประชาชนที่อยู่เบื้องล่าง และกอบโกยทรัพยากรของประเทศไว้กับตัวเอง จะต้องมีการจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งแห่งที่ที่จะไม่ถูกแอบอ้างเช่นนั้นได้อีก โดยที่จะต้องให้พระมหากษัตริย์ไม่เป็นผู้ใช้อำนาจด้วยพระองค์เอง ไม่เป็นผู้บริหารจัดการงบประมาณของแผ่นดินเอง ไม่เป็นผู้บังคับบัญชาบุคลากรของรัฐเอง ไม่เป็นผู้รับรองการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เช่น การไม่รับรองการรัฐประหาร ให้กิจการทั้งหมดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล, สภาผู้แทนราษฎร หรือองค์กรที่ยึดโยงกับประชาชน และอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสาธารณะเทียบเท่ากับองค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นๆ

นี่คือระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะจัดทำขึ้นนั้นจะต้องทำให้บังเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ภารกิจของ ส.ส.ร. ที่จะมีขึ้นต่อจากนี้ไป คือการเปิดพื้นที่แห่งการสร้างข้อตกลงใหม่ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งท้ายที่สุดเมื่อข้อตกลงดังกล่าวนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ตัว ส.ส.ร. เอง, รัฐสภา, รัฐบาล หรือองค์กรอื่นใดจะต้องไม่มาขัดขวางหรือล้มล้างอีก

ท่านประธานครับภารกิจครั้งนี้มีความสำคัญยิ่งนัก พื้นที่แห่งการสร้างข้อตกลงใหม่เพื่อที่จะนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงได้นั้น จะต้องเป็นพื้นที่ที่เป็นของประชาชนจริงๆ มีที่มาจากประชาชนโดยตรง ต้องเป็นพี้นที่ที่ประชาชนเข้ามาสร้างข้อตกลงได้ในฐานะที่เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดในประเทศ ไม่ใช่เป็นเบี้ยล่างของใคร นอกจากนั้นยังต้องเป็นพื้นที่ที่เปิดให้ประชาชนแสดงเจตนารมณ์ได้อย่างเต็มที่ว่าต้องการให้รัฐธรรมนูญใหม่มีเนื้อหาแต่ละเรื่อง แต่ละหมวด แต่ละมาตราว่าอย่างไรบ้าง ที่สำคัญต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการใช้อำนาจรัฐหรืออิทธิพลเถื่อนเข้าแทรกแซง บีบบังคับ หรือข่มขู่คุกคาม หากบรรลุซึ่งคุณลักษณะประการเหล่านี้ไม่ได้แล้ว ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญที่เราตั้งหวังไว้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย

ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้ายังคงให้ ส.ว. ชุดแรก 250 คน ที่เป็นผลพวงของคณะเผด็จการ ไม่มีความยึดโยงกับประชาชนแม้แต่น้อย ได้มีอำนาจเป็นองค์กรอภิสิทธิ์ขี่คอองค์กรอื่นต่อไป ยังคงให้มีการรับรองความชอบของประกาศและคำสั่งของคณะเผด็จการทหารไว้ในรัฐธรรมนูญต่อไป ยังคงให้มีระบบการเลือกตั้งที่พิลึกพิสดารจนบางพรรคการเมืองเอาไปอ้างได้ว่า “ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” ไม่ยอมรับเสียทีว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งแปลกปลอมของระบอบที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วรีบยกเลิกไปเสีย หากปัญหาตรงหน้าแบบนี้ เราไม่สามารถยกเลิกไปเสียได้ แล้วกับเรื่องที่ใหญ่หลวงยิ่งกว่าจะกล้าเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้า ส.ส.ร. ที่จะให้มีขึ้นมา ที่จะเปิดพื้นที่แห่งการสร้างข้อตกลงใหม่นั้น ยังมีที่มาที่แบ่งโควตาให้กับองค์กรหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีฐานความชอบธรรมในทางประชาธิปไตยใดๆ เลย ให้มาร่วมเลือก ส.ส.ร. ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ประชุมอธิการบดีที่มาได้ไงก็ไม่รู้, กกต. ผู้เป็นเจ้าของผลงาน “เลือกตั้งไปก่อน คิดสูตรคำนวณทีหลัง” หรือ ส.ว. ผลพวงเผด็จการที่เพิ่งกล่าวถึงไป การที่ยังคงสงวนที่ว่างไว้ให้คนพวกนี้ที่ไม่ได้มีคุณค่าอะไรเลยที่จะมาเป็นผู้เลือก ส.ส.ร. แทนที่จะให้ประชาชนเลือกเอง มันสะท้อนถึงความไม่ยินดีที่จะให้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนจริงๆ ยังอยากให้มีคนของตัวเองเข้าไปสืบทอดอำนาจในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป

ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้า ส.ส.ร. ปิดหูตัวเอง ไม่ยอมเปิดให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทุกหมวดทุกมาตรา ซึ่งรวมถึงหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ทั้งที่ตัวรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เองก็ยังอนุญาตให้แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 หมวด 2 ได้ ผมต้องย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงในหมวด 1 หมวด 2 หาใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐเสมอไป เพราะถึงอย่างไรการแก้ไขรัฐธรรมหรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังอยู่ภายใต้ของมาตรา 255 ที่กำหนดห้ามเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐหรือเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดังนั้นผมต้องย้ำว่าไม่มีใครในประเทศนี้นอกจากกองทัพที่มีศักยภาพในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ นอกจากนั้นการปิดหูตัวเองของ ส.ส.ร. นี้เท่ากับเป็นการปิดปากประชาชน อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่าเสียงเรียกร้องของประชาชนที่มีต่อประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นมีมากขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนพวกท่านอาจเคยคิดว่าคนเหล่านี้มีหลักสิบหลักร้อย มาตอนนี้เริ่มพบว่าพวกเขาอาจมีถึงหลักหมื่นถึงหลักแสนที่ได้ออกมาแสดงตัวกันแล้ว ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตอันใกล้ พวกท่านอาจพบว่าผู้คนที่พวกท่านพยายามใช้มือไม่กี่ร้อยคู่ปิดปากพวกเขาอาจมีถึงหลักล้านหลักสิบล้านก็เป็นได้

ท่านประธานครับ โดยทั่วไปแล้ว การแก้รัฐธรรมนูญหรือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นกระบวนการที่สามารถทำได้ และมีความชอบธรรมหากกระบวนการนั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นโดยตัวแทนประชาชน ก็มีคราวนี้นี่แหละครับที่การแก้รัฐธรรมนูญมีความยากเป็นพิเศษ ความยากตรงนี้เกิดจากการที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ออกแบบบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องมรดกของ คสช. ซึ่งต้องย้ำดังๆว่า การปกป้อง มรดก คสช. ตามกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ การปกป้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ประชาชนหรือตัวแทนของประชาชนเข้าไปยุ่ง ไปแก้ไข ราวกับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเกิดขึ้นได้ภายใต้การรัฐประหารเท่านั้น มันจึงไม่แปลกที่ทันทีที่ตัวแทนของประชาชนเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา จะมีบรรดาซากเดนของเผด็จการโผล่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งสภาพแบบนี้มีแต่ทำให้การเมืองไทยถึงทางตัน ผมขอเรียกร้องให้ซากเดนเหล่านี้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ สำนึกต่อบาปที่ตัวเองก่อเอาไว้

ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอเรียกร้องต่อพวกเราทุกคนให้ใช้มโนธรรมสำนึกที่ถูกต้อง ให้เห็นชอบหลักการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ทั้งในเรื่องของการให้มี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงทั้งหมด อันได้แก่ร่างของฝ่ายค้าน ในเรื่องของการยกเลิกอำนาจพิเศษของ ส.ว. ชุดแรก การยกเลิกมาตรา 279 และการแก้ไขระบบเลือกตั้ง ให้ทั้งหมดนี้เริ่มต้นที่สภาชุดของพวกเรา

กล่าวถึง ส.ว. ที่ผ่านมาท่านไม่ได้มีที่มาจากประชาชน ไม่ได้ต้องรับรู้รับทราบกับปัญหาของประชาชน แต่ท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่เลือกผู้นำประเทศ ซึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานี้ มาบริหารประเทศ สร้างนโยบายและแก้ปัญหาของประชาชน ซึ่งวันนี้ผ่านมาปีกว่า เราได้เห็นกับตาแล้วว่า มันผิดพลาดอย่างไรกับสิ่งที่ท่านทั้ง 249 คนเลือกมา

วันนี้เป็นโอกาสของท่านแล้วครับ โอกาสที่จะแก้ไขความผิดพลาดนี้ โอกาสที่จะกอบกู้ชื่อเสียงเกียรติยศของพวกท่านกลับมาอีกครั้ง ด้วยการกลบฝังสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นกลับลงสู่ผืนดิน ให้โอกาสประชาชนได้ใช้เสรีภาพในการเลือกทุกอย่างด้วยตัวท่านเอง ให้ประชาชนเลือกพวกท่านกลับมาด้วยเจตจำนงค์ของประชาชนเอง โอกาสเป็นของพวกท่านแล้ว อยู่ที่พวกท่านจะเลือกว่าจะเสียสละเพื่อไปสู่อนาคตร่วมกันกับประชาชน หรือทิ้งโอกาสที่จะได้แก้ไขปัญหาของชาตินั้นไปอีกครั้งอย่างน่าเสียดาย

หากเรื่องเหล่านี้สมาชิกในที่นี้ยังเพิกเฉย ผมคงเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากจะต้องกล่าวว่าพวกท่านไม่ต้องการนำสถาบันพระมหากษัตริย์กลับมาใกล้ชิดระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้อยากให้ประเทศเรามีระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่พวกท่านต้องการคือ “ระบอบที่อยู่ตรงข้ามกับประชาชน และมีบางคนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ”

หากในภายภาคหน้าการจัดทำรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างข้อตกลงใหม่ในระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้จริง แล้วมันไปทำให้ผู้ที่เคยได้ประโยชน์จากระบอบแบบเดิมไม่พอใจ จนออกมาหาทางใช้อำนาจรัฐต่างๆ เพื่อฉุดดึงหน่วงรั้ง หรือถึงขั้นก่อรัฐประหารขึ้นมาอีกครั้ง ผมขอเรียนต่อท่านประธานรัฐสภา ให้เชิญชวนทุกคน ทุกองค์กร ทุกสถาบันในสังคม ออกมาร่วมปกป้องรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนด้วยกัน

สุดท้ายนี้ ผมยืนยันอีกครั้ง ว่าสิ่งที่ผมเสนอไม่ใช่การต้องเลือกระหว่างความจงรักภักดี กับการเคียงข้างกับประชาชน นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราอยากเห็น เพราะสิ่งที่พวกเราอยากเห็นคือการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เคียงข้างระบอบประชาธิปไตย โดยมีประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ด่วน! เครนยักษ์ ถล่มทับคนงาน เบื้องต้นมีรายงานการเสียชีวิต 6 ราย

ด่วน! เครนยักษ์ ถล่มทับคนงาน ไซด์งานก่อสร้าง จ.ระยอง เบื้องต้นมีรายงานการเสียชีวิต 6 ราย

ทัวร์ลงยับ! หนุ่มสงสัย หลังได้ใบสั่ง ‘ไม่จอดรถให้คนข้าม’ ลั่น ข้อหานี้มีด้วยเหรอ?

หนุ่มสงสัย! โพสต์โวยได้ใบสั่ง ‘ไม่จอดรถให้คนข้ามถนน’ แต่คดีพลิก เมื่อชาวเน็ตพาทัวร์ย้อนกลับ ไปสอบใบขับขี่มาจากไหน

เจ้าของร้านหมูกระทะ แจงดราม่า ใช้ไม้เรียวตีพนักงาน เป็นไปตามข้อตกลง

แขวะกลับแรง! เจ้าของร้านหมูกระทะ ย่านพัทยา แจงดราม่า ใช้ไม้เรียวตีพนักงาน พร้อมโพสต์เฟซฟาดชาวเน็ต อย่าตัดสินอะไรที่ยังไม่รู้จากปาก

เตรียมซึ้งกับเจ้าพ่อเพลงอกหัก “YOUNG CAPTAIN” ในคอนเสิร์ต 11 พ.ค. นี้!

เตรียมซึ้งกับเจ้าพ่อเพลงอกหักจากจีน “YOUNG CAPTAIN” พร้อมบินมาดามใจเหล่าสาวกคนใจอ่อน ที่ประเทศไทยกันแล้ว 11 พ.ค. นี้

5 ราศี การงาน – การเงิน – โชคลาภ เป็นดั่งใจหวัง

อาจารย์กิติคุณ พลวัน เผย ดวงเมษายน 2567 : 5 ราศี หลุดจากบ่วงความทุกข์ ก้าวสู้ความสุข พร้อมแจกเลขมงคล และวิธีเสริมดวงสุดปัง!
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า