เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เจ้าสัวประทีป ส่งสารถึง เศรษฐา นายกรัฐมนตรี ชี้ โครงการดี ตัดเศรษฐีแล้วให้ทั่วหน้า
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า นายประทีป วัชรโชคเกษม นักธุรกิจด้านยานยนต์ อดีตที่ปรึกษาประธานรัฐสภา เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสนับสนุน แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของรัฐบาลเพื่อไทย รวมถึงได้มีการนำเสนอแนวคิดต่างๆ ของตนเอง ถึงโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีการระบุรายละเอียด ดังนี้ “เรียน ท่านนายกเศรษฐา และ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” เรื่อง กำหนดนโยบายการเงินดิจิทัล วอลเลต 560,000 ล้านบาท เปลี่ยนเป็น ดิจิตอล “บาท s” และใช้จ่ายผ่านโดยการสแกน QR code เพื่อใช้แทนเงินสดอย่างถาวรในประเทศไทยที่สามารถใช้แทนเงินสด ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

การแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชน เพื่อ ใช้จ่าย ภายใน6เดือน ให้มีผลทางกฎหมาย ใช้หนี้ได้ตามกฎหมายอย่างถาวร ในตลาดการเงินระบบภาษีสำรองเงินตรางบประมาณ ใช้แทนเงินสด และใช้หมุนเวียนในตลาดการเงิน สามารถตรวจสอบได้
1.การมีเงินได้ และใช้เงินสดปัจจุบันนี้ ประชาชนเก็บเงินสดไว้ในบ้านจำนวนมาก ทำให้ไม่เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และธุรกิจ ที่หลบเลี่ยงภาษี ซื้อและขายมีจำนวนมาก ไม่เกิดความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ
2.การซื้อขายเงินสดโดยไม่ผ่านระบบภาษี ทำให้รัฐบาลไม่ได้ภาษี และไม่ใด้สร้าง gdp ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อประเทศ ธุรกิจสีเทาพนัน ซื้อขายนอกระบบ พวกนำเข้าไม่ผ่านระบบแล้วมาขายนอกตลาดโดยไม่เข้าระบบเสียภาษีให้ถูกต้อง เป็นต้น ทำให้รัฐเสียหาย จัดเก็บภาษีได้ไม่ทั่วถึงและไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียภาที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง
- เพจดังพ้อ ปม ครูอาหารกลางวัน หลัง ครูดอยแบ่งงบมาทำอาหารแต่ถูกฟ้อง
- เปิดภาพเจรจา ช่วยตัวประกันคนไทย กับตัวแทน กลุ่มฮามาส
- ปารีณา ซัด บิ๊กโจ๊ก ไหว้สวย คุณหญิงพจมาน ลั่น น่า…..เกลียด!
ดังนั้น “บาทs” คือ เงินดิจิทัลที่นำมาใช้แทนเงินสด จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจและgdp การจัดเก็บภาษี ให้ประชาชนทุกคนเข้าสู่ระบบทุกธุรกิจอาชีพ สร้างความเป็นธรรมต่อสังคม เศรษฐกิจมั่นคง การที่รัฐบาลจะแจกเป็น3ระดับนั้น ควรแจกให้ประชาชน ที่มีรายได้ 60,000บาท ด้วย เพราะคนระดับนี้จะเป็นคนที่เดือดร้อนมากที่สุด เพราะจะอยู่ในช่วงที่เป็นหัวหน้าครอบครัว มีภาระดูและบุตรธิดา การศึกษา ผ่อนบ้านผ่อนรถ ดูแลพ่อแม่ สูงอายุ เจ็บป่วย และเป็นบุคคล ที่มีค่าใช้จ่าย และเป็นข้าราชการทหารตำรวจครู อื่นมากมาย เป็นผู้ใช้จ่ายในระบบภาษี

โครงการ ทั่วหน้านั้นดีอยู่แล้ว ตัดเฉพาะเศรษฐี กลุ่มซื้อขายหลักทรัพย์ ก็ล้านคน เจ้าของกิจการ กลุ่ม ที่ไปอยู่ต่างแดนถาวร ส่วนที่เหลือควรให้ทั่วหน้า เมื่อมีผู้คัดค้านต่อต้าน ก็ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา และออกพระราชกำหนด เพื่อความปลอดภัย ในอนาคต ของคณะกรรมการ ผู้รับผิดชอบทั้งหมด และควรเลยเดือนพฤษภาคม ปี 67 : ประทีป วัชรโชคเกษม
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY