บ้านพักหลวง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. เปิดเผยว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกฯ มีสิทธิอยู่บ้านพักรับรองได้ตามระเบียบกองทัพบกนั้น ดูจะมีปัญหาตามมา ทั้งในเรื่องรับประโยชน์เกินสามพัน และเรื่องการใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ซึ่งแม้หลายฝ่ายจะอ้างว่า เรื่องนี้ควรจบได้แล้วเพราะคำวินิจฉัยดังกล่าวออกมาแล้ว แต่อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234(1) เรื่องนี้ ย่อมจบยากและ ปปช.ก็มีหน้าที่และอำนาจเข้ามาไต่สวนได้
สิ่งที่นักการเมืองและหลายฝ่ายมองไม่ทะลุ คือ ตามนัยคำวินิจฉัยที่ 27/2544 ที่วินิจฉัยว่า ระเบียบฯ ไม่ใช่บทบัญญัติของกฎหมาย ดังนั้นระเบียบกองทัพบกดังกล่าว ย่อมไม่ใช่บทบัญญัติของกฎหมาย การยกระเบียบกองทัพบกมาวินิจฉัยจึงอาจไม่ชอบ เพราะว่า พรป. วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 73 บัญญัติว่า คำวินิจฉัยต้องยกบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายมาอ้างอิงเท่านั้น
ดังนั้นการยกระเบียบกองทัพบกซึ่งมิใช่บทบัญญัติของกฎหมายมาอ้าง จึงมิอาจทำได้ อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญเคยโดนประกาศ คปค. ฉบับที่ 3 ยุบ ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการนำระเบียบฯ คตง. มาใช้ในคำวินิจฉัยที่ 47/2547 ดังนั้น เมื่อคำวินิจฉัยคดีนายกฯนำระเบียบกองทัพบกมาใช้ จึงไม่เป็นไปตามมาตรา 73 กรณีย่อมมีปัญหาตามมาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่”
โดยเรื่องนี้จึงยังไม่จบ และเตรียมจะร้องขอให้ ปปช. ไต่สวน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จงใจใช้อำนาจขัดกฎหมาย ตามความในมาตรา 234 (1) หรือไม่โดยจะส่งคำร้องเป็นหนังสือไปทางไปรษณีย์ EMSในวันพรุ่งนี้(7ธ.ค.)