เมื่อวันที่ 10 กันยายน เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 33) ความว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น

เพื่อเป็นการบังคับใช้บรรดามาตรการตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้แล้วต่อเนื่องไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รัฐบาลและพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้าควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ฝ่ายสาธารณสุขและหน่วยงานที่รับผิดชอบจึงได้ประเมินผลและความเหมาะสมของมาตรการต่าง ๆ เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เพื่อพิจารณา

โดยพนักงานเจ้าหน้าที่คงจำเป็นต้องติดตามกำกับดูแลทั้งบุคคล สถานที่ การดำเนินกิจการและกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนบริการวัคซีน รวมทั้งการสร้างความรับรู้และความเข้าใจให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบเตรียมความพร้อมเพื่อการปฏิบัติตนสำหรับการดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในระยะยาว เช่น มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย (Smart Control and Living with COVID-19) มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19)  หรือมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-Free Setting) ที่จะบังคับใช้ในอนาคต

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของ ศบค. ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 การกำหนดพื้นที่สถานการณ์จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด ให้การกำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ จำแนกเป็น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และ พื้นที่ควบคุม ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 11/2564 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ยังคงบังคับใช้ต่อไป

ข้อ 2 การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพื่อการควบคุมสถานการณ์ของการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดตามการประเมินของฝ่ายสาธารณสุข จึงให้บรรดามาตรการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น และข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามที่กำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า ได้แก่ การห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค มาตรการควบคุม

แบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัด การขนส่งสาธารณะ และการปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำการของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและเอกชนอย่างเต็มความสามารถที่จะทำได้ รวมถึงบรรดามาตรการ หลักเกณฑ์ หรือแนวปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้กำหนดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวยังคงใช้บังคับต่อไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เคอร์ฟิว, เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
เคอร์ฟิว, เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
เคอร์ฟิว, เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

แม่ร้องปวีณา คาใจ! หลังสถานทูตบาห์เรน แจ้งลูกสาวตายมา 1 ปี

แม่ คาใจ! สถานทูตเพิ่งแจ้งข่าว ลูกสาวเสียชีวิตที่บาห์เรน มา 1 ปี หลังย้ายไปอยู่กินกับสามี ด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลว เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

เอาแล้ว! ครูไพบูลย์ ลั่น เจอกันที่ศาล หลังถูกกล่าวหาเล่นพนัน

ครูไพบูลย์ แสงเดือน ขอปกป้องตัวเอง! รับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น หลังถูกชาวเน็ตรายหนึ่ง กล่าวหาเล่นพนัน จนเสียเงินเป็นแสน

รบเดือด! ฝ่ายต้านฯ เปิดฉากโจมตีทหารเมียนมา กระสุนข้ามแดนตกฝั่งไทย

ทหารพม่า – ฝ่ายต้านฯ เปิดฉากโจมตี นำเครื่องบินรบ MiG-29 ทิ้งระเบิดใส่กลุ่มต่อต้าน สาดกระสุนข้ามแดนตกฝั่งไทย ประชาชนส่วนใหญ่ อพยพหนีเข้าไทย

แน็ก ชาลี ตอบแล้ว! สาเหตุไร้ซีนกอด หลังส่ง กามิน บินกลับเกาหลี ?

แน็ก ชาลี ออกมาตอบแล้ว! สาเหตุไร้ซีนกอดร่ำลา หลังส่ง กามิน บินกลับบ้านเกิด ประเทศเกาหลี ?

จับแล้ว! 2 ผู้ต้องหา แทงเพื่อนร่วมชาติ ทิ้งร่างให้รถไฟทับ อำพรางศพ

2 ผู้ต้องหา ปัด! ไม่ใช่มือแทงเพื่อนร่วมชาติดับ ปล่อยให้รถไฟทับร่างขาดเป็น 2 ท่อน อำพรางคดี แต่สารภาพ มีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า