นาย สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบน มูลค่า 20 ล้านบาท ให้กับคนในของสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อแลกสัมปทานที่ดินทำเลทอง 12 ไร่ ย่านชิดลม ว่า เรื่องนี้มีความผิดสำเร็จแล้ว หากพูดเป็นภาษาชาวบ้านคือน้องชายนายธนาธรจ่ายเงินใต้โต๊ะ เพราะอยากได้ที่ดินโดยที่ไม่ต้องไปประมูลหรือดำเนินการตามกฎหมาย
ซึ่งจะมีความผิดอย่างเช่นคนที่รับเงินไปมีอำนาจหน้าที่หรือไม่ หากมีอำนาจหน้าที่ก็ถือเป็นการให้สินบนราชการ ซึ่งคิดว่าต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพราะเรื่องนี้นายธนาธร พูดเสมอว่าต้องการให้บ้านเมืองไม่มีคอร์รัปชั่นแต่น้องชายทำเสียเอง ตัวนายธนาธรเองก็เช่นกันที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ยังฝ่าฝืยมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แม้กระทั้งนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธรก็ไปยึดที่ดินของหลวงมิชอบ แล้วมาคืนในภายหลัง
“ผมขอถามว่าคนอย่างนี้หรือที่จะเป็นผู้นำของประเทศ คนอย่างนี้หรือที่จะเดินถนนได้ ผมคิดว่าถ้าเป็นผม วงศ์ตระกูลผมทำแบบนี้ ผมไม่สามารถจะเดินถนนได้ อายเขา อย่ามาเสนอหน้าเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอให้ความคิดเห็นว่าม็อบหรือผู้ชุมนุมทำถูกแล้ว สิ่งที่ท่านทำ ท่านยุให้เขาทำผิดกฎหมายหรือไม่ ชุมนุมผิดกฎหมายหรือไม่ ละเมิดจาบจ้วงสถาบันหรือไม่ ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือไม่ และทำร้ายทรัพย์สินราชการ ท่านพูดเสมอว่าทำได้ แต่นายธนาธรทำไมไม่ทำ มาชุมนุมขึ้นเวทีเองจะได้เสมอภาค ถ้าผมเป็นนายธนาธร ผมไม่สามารถที่จะเดินบนท้องถนน เสนอหน้าไปหาเสียงได้ หากวงศ์ตระกูลเป็นแบบนี้ หมดความชอบธรรมที่จะมาเป็นผู้นำ และหมดความชอบธรรมที่จะเสนอหน้าบนท้องถนน”
ส่วนในการประชุมกมธ.ฯ วันที่ 9 ธ.ค.จะมีการหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะคดีนี้มีคนกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว แต่เหตุใดอัยการไม่สั่งฟ้อง เพราะคนที่ติดสินบนเป็นคนรวยใช่หรือไม่ เป็นเพราะคุกมีไว้ขังคนจนหรือไม่ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง ดังนั้น ตำรวจ พนักงานสอบสวน หรือหัวหน้าพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้