วันที่ 27 พ.ย. 63 นาย ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระและผู้สื่อข่าวช่องดัง ได้เปิดเผยว่า สน.พหลโยธินยัดคดีผมเป็นผู้ต้องหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน หลังตนไปทำข่าวให้ Voice TV เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เรื่องการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว กิจกรรมที่ทำมีแค่จับไมโครโฟนออกทีวี, ถ่ายคลิปชุมนุม และมีผู้ชุมนุมขอถ่ายรูป ไม่มีอย่างอื่นเลย
เล่นใหญ่! โตโต้ ปิยรัฐ เผย เหตุการณ์นอกเครื่องแบบจับกุมตัว ไล่ล่าเหมือนในหนัง
ราษฎร ประกาศรวมตัวนัด “ซ้อมต้านรัฐประหาร” ที่ห้าแยกลาดพร้าว เย็นนี้
ทั้งนี้ศิโรตม์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อหยิบหมายเรียกของตำรวจ สน.พหลโยธินฉบับวันที่ 23 พ.ย.มาอ่านแล้วยิ่งมั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะครั้งเดียวที่ผมไปห้าแยกลาดพร้าวในรอบเดือน คือวันที่ 17 ตุลาคมเท่านั้นเอง อีกทั้งยังกล่าวว่า “ถ้าผมไปตามหมายเรียกวันที่ 30 จะมีใครไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ”
ล่าสุดศิโรตม์ได้เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียอีกว่า “วันนี้ 10.39 มีตำรวจบุกบ้านผมสี่ราย นอกเครื่องแบบ3 แม่ผม 93 ไปยุ่งแม่ผมทำไม พยายามหลอกให้น้องบ้านผมเซ็นรับเอกสารด้วย ต้องการอะไร? จะหาเรื่องยัดคดีอื่นนอกจากทำข่าวชุมนุมอีกหรืออย่างไร?”
หัวหน้าการ์ดปลดแอก โต้ โฆษก บช.น ไม่รู้จักมือยิง “การ์ดไม่ได้ทะเลาะกันเอง”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ศิโรตม์ ก็เคยกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย. โดยระบุว่า “โดนยัดคดีอีกแล้ว คราวนี้เป็นผู้ต้องหาไปแล้วครับ ไม่ไปในวันที่ 30 โดนหมายจับทันที เดือนตุลาคมโดน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมชุมนุมเกิน 5 คน กับหมอทศพรและพวก วันนี้โดน สน.เดิมออกหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหาอีกครั้งแล้ว ผู้ออกคำสั่งคือ พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ รองผู้กำกับฝายสอบสวน ระบุหากไม่ไปในวันที่ 30 โดนหมายจับทันที
ผมไม่เข้าใจว่าผมไปชุมนุมแถวพหลโยธินตอนไหน ครั้งสุดท้ายที่ไปก็ตอนรายงานข่าวชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว ไม่มีวินาทีไหนที่ไม่ถือไมโครโฟนหรือโทรศัพท์สำหรับถ่ายงาน คลิปและภาพถ่ายที่สำนักข่าวอื่นสัมภาษณ์ผมก็มีเยอะไปหมด คุยกับหมอทศพรสักครั้งก็ไม่มีเลย มีแตะแขนทักบ้างตอนแกเดินมาใกล้จุดที่ผมยืนจัดรายการครั้งเดียว
หมายเรียกใช้คำว่า นายแพทย์ทศพรและพวก แปลว่ารอบนี้คงมีคนโดนยัดข้อหาแบบผมนี้อีกเยอะ แต่ยัดข้อหาแบบนี้เกินไปครับ ผมไปทำหน้าที่เหมือนสื่อคนอื่นทั้งประเทศ ทำงานแบบนี้ในพื้นที่อื่นเยอะแยะ แต่ทั้งประเทศมีผมคนเดียวที่โดนคดี
ผมได้หมายในวันพุธที่ 25 โดนบังคับให้ไปในวันอาทิตย์ที่ 30 แบบนี้คือการแกล้งเรียกให้กระชั้นเพื่อหาเรี่องจับแล้วหรือเปล่าครับ งานการผมมีทำ จะเอาเวลาที่ไหนไปทัน แค่จะกินจะนอนก็แทบไม่มีอยู่แล้ว ตกลงห้ามคนพูดไม่ได้ก็เลยใช้วิธียัดคดีปิดปากหรือไง
ทำแบบนี้ความขัดแย้งในประเทศถึงไม่จบ ยิ่งนานยิ่งลุกลามขึ้นทุกวัน นี่หรือคนที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อสร้างความสามัคคีให้ประเทศ ยิ่งอยู่คนยิ่งขัดแย้ง ยิ่งนานคนที่โดนยัดคดียิ่งท่วมประเทศจนเรื่องลามไปหมดอย่างปัจจุบัน #รัฐบาลคุกคามสื่อ #ไปทำข่าวแต่โดนยัดคดี”