จากกรณี นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้เผยแพร่คลิปช่วยหาเสียงสนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ นั้น ข่าวที่เกี่ยวข้อง ศรีสุวรรณ ยื่นหลักฐานคลิปทักษิณ อ้อนเลือกคนเพื่อไทยเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้ว่า ในฐานะที่เป็นอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายพิชัย ขอเรียนว่า เรื่องนี้ต้องแยกประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง กับการบริหารพรรคออกจากกัน เพราะการเลือกตั้งนั้นจะมีกฎหมายและระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ ว่า อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ฉะนั้นการที่นายกทักษิณจะไปควบคุม ครอบงำ ชี้นำการบริหาร หรือการดำเนินกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
โดยหากเปรียบเทียบกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 24 มีนาคม 2562 ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง แม้ พลเอกประยุทธ์ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย อีกทั้งไม่ได้เป็นสมาขิกพรรคพลังประชารัฐ กกต.ได้มีความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครหาเสียงได้ เพียงแต่ต้องไม่กระทำการขัดต่อมาตรา 78 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เท่านั้น และก็ทำมาแล้วในหลายเวที ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
“หากถือว่าการที่ท่านอดีตนายกทักษิณ ทำจดหมายและพูดสนับสนุนนายพิชัยในการเลือกตั้งนายกอบจ. กับการที่พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครของพรรคหาเสียง ส.ส. จะไม่ชัดเจนยิ่งกว่าหรือ จึงขอฝากไปยังกกต.ว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม และขอฝากไปยังนายศรีสุวรรณว่า ถ้าคิดจะเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญตามชื่อสมาคม ควรร้องเรียนอะไรก็ควรให้เป็นสาระมากกว่านี้ และอย่าทำอะไรโดยมีวาระแอบแฝงหรือมีเบื้องหลัง ขอให้นายศรีสุวรรณ ไปดูว่าเรื่องที่ตนเองไปยื่นคำร้องตามหน่วยงานต่าง ๆ นั้น มีกี่เรื่องที่เป็นสาระบ้าง ควรเอาเวลาไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากกว่า และก็อยากถามนายศรีสุวรรณว่า ทุกวันนี้ทำอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง และมีรายได้จากทางไหนถึงมีเวลาไปเที่ยวร้องเรียนคนอื่นไปทั่ว และอย่าเที่ยวร้องซ้ำซาก” นายพร้อมพงศ์ ระบุทิ้งท้าย