วันที่ 4 พ.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาตั้งคำถามว่า สังคมเชื่อว่าปิยบุตรหัวหน้าพรรค นายปิยบุตร รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายจริงและต้องรับโทษ หรือผู้มีอำนาจมองว่าพวกนี้เป็นอันตราย สังคมตัดสินจากเหตุผลใดนั้น ข้อเท็จจริงที่ว่า นายธนาธร และนายปิยบุตร ทำผิดจริงหรือไม่ กระจกที่ส่องอยู่ในใจ คงจะสะท้อนออกมาได้ และถ้าอยากให้ประชาชนรับรู้ และเข้าใจความจริงที่อยู่ในใจ ก็ควรจะให้ข้อมูล ตอบคำถามพิสูจน์ตนเองให้ชัดเจน เช่น ในวันไต่สวนคดีของศาลรัฐธรรมนูญ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตามกระบวนการยุติธรรมนี้ นายธนาธรมีสิทธิเต็มที่ที่จะให้การ นำสืบพยานหลักฐาน ให้ถ้อยคำเพื่อพิสูจน์ในปัญหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนตามปกติในกระบวนการยุติธรรม หากจะมีปุถุชน ประชาชน ทั่วไป คิดว่านายธนาธรโดนแน่ เพราะเขาสงสัยว่า นายธนาธร อาจจะทำผิดจริง สงสัยว่าอาจจะไม่ได้โอนหุ้น ในวันที่ 8 ม.ค. 62 จริง
เหตุที่เขาสงสัยแบบนี้ อาจเพราะเมื่อนายธนาธร มีโอกาสให้ความจริงต่อศาลและสาธารณชน นายธนาธรกลับตอบคำถามโดยไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ชัดเจนเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนหายสงสัยได้ ไม่ใช้โอกาสในนัดไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญให้ข้อมูลต่าง ๆ กลับไปให้การตอบคำถามในหลายประเด็นเพียงว่า “จำไม่ได้” ทั้งที่ศาลได้ให้เวลาเตรียมตัวและนายธนาธรเองเป็นผู้เรียกร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการไต่สวนมาโดยตลอด
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า อยากถามเจตนาที่แท้จริงในการตั้งคำถามของ นายปิยบุตร เพราะประชาชนไม่แน่ใจ ว่า นายปิยบุตร ต้องการคำตอบหรือต้องการสร้างกระแสต่อสังคมว่า ความผิดต่าง ๆ ของนายธนาธร และนายปิยบุตร เกิดจากผู้มีอำนาจมอง ว่านายธนาธร และนายปิยบุตรเป็นอันตราย
“แต่หาก นายปิยบุตร มีเจตนาเพียงสร้างกระแส ก็ขอให้เลิกทำเสีย เพราะอยากให้ทำความเข้าใจว่าไม่มีใครในสังคมนี้ ต้องการให้ทั้ง นายธนาธร และนายปิยบุตร กระทำความผิดใด ๆ และไม่มีใครหรือผู้มีอำนาจคนใดมองว่านักการเมืองที่เลื่อมใส ตามวิถีครรลองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นอันตรายต่อเขา หากใครจะถูกกระบวนการยุติธรรมตัดสินว่ามีความผิด ก็เป็นเพราะเขาไม่สามารถนำพยานหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองได้” น.ส.ทิพานัน กล่าว