นิรโทษกรรม วันที่ 19 มิถุนายน 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ากรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม คดีการเมือง ยกเว้นคดีทุจริต ปลดล็อกประเทศ ว่า เมื่อได้ทราบข่าวแล้วดีใจ แต่ก็ดีใจได้เพียงข้ามคืน รุ่งขึ้นโฆษกรัฐบาลก็ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว ทั้งนี้ การรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 เป็นข้ออ้างประการหนึ่งนอกเหนือจากการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองคือ การสร้างความปรองดองของคนในชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บัดนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง ควรแสดงภาวะผู้นำ เมื่อเรียนผูก ควรเรียนแก้ปัญหาของประเทศ
นายชวลิต กล่าวอีกว่า ไหนๆ ก็มีผู้จุดประเด็นข่าวการสร้างความปรองดองขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะที่ตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มานาน การสร้างความปรองดองของคนในชาติ คือ หัวใจของการสร้างชาติ สร้างแผ่นดิน หลักคิดของตนในเรื่องนี้คือ ผู้นำประเทศควรน้อมนำคุณธรรมทางศาสนามาใช้ในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ โดยคุณธรรมทางศาสนาที่สำคัญนั้น ได้แก่ “อภัยและเมตตา” เพื่อให้อภัยและเมตตาแก่บุคคลที่ต้องคดีการเมือง และคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง ยกเว้น คดีทุจริต แต่กระบวนการกล่าวหาว่า ผู้ใดทุจริต กระบวนการนั้นก็ต้องยืนอยู่บน “หลักนิติธรรม” ถึงจะได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ ที่สำคัญได้รับการยอมรับจากผู้ถูกกล่าวหา
“ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตจากการระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนมหาศาล ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะจะมีคนตกงานนับสิบล้านคน ธุรกิจต่างๆ ปิดกิจการมากมาย ดังนั้นการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ในห้วงเวลานี้จึงเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อระดมกำลังความคิด สติปัญญาจากทุกภาคส่วนมาช่วยกันแก้ปัญหาและพัฒนาชาติบ้านเมือง ผมเห็นว่า “มะม่วงสุกแล้ว” ไม่อ่อน จนเปรี้ยว และถ้าปล่อยให้สุกเกินไป ก็จะเน่า” นายชวลิต กล่าว