เท่าพิภพ ก้าวไกล – วันที่ 7 พ.ย. 63 จากกรณี คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้พิจารณาการขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้น จำกัดและบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยกรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ขออนุญาตรวมธุรกิจซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดในตลาดร้านค้าปลีกสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็ก จะมีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นการผูกขาด
ล่าสุดนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า มุมมองของผมที่มีต่อการดีลของ CP และ TESCO LOTUS เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ผมได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ แต่ท่านตอบกลับมาว่า “เรามีขั้นตอนตรวจสอบที่เข้มงวด เป็นไปได้ยากที่จะเกิดเหตุการณ์นี้”
อ่าน: จุลพันธ์ เพื่อไทย คัดค้าน กขค. มีมติ ควบรวมซีพี-โลตัส ไม่เป็นการผูกขาด
ถ้ามองในมุมกว้าง การที่ CP ได้ Tesco Lotus มาในครอบครอง จะทำให้ CP เป็นมหาอำนาจมากยิ่งขึ้นด้วยอำนาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์ ทำให้กำไรเข้ากระเป๋าคนน้อยคนลงมาก
ถามว่าทำไมถึงเป็นมหาอำนาจ?
เราต้องยอมรับว่า CP เป็นธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของประเทศไทย เป็นทั้งธุรกิจค้าส่งที่ยิ่งใหญ่ (แม็คโคร) ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-eleven) และยิ่งได้ Tesco Lotus อีก ยิ่งทำให้ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตของ CP แข็งแกร่งขึ้น และยังสามารถขยายธุรกิจได้อีก
ทำไมถึง “กินรวบ”
การที่ CP ได้ฝังรากลึกลงไปในประเทศนี้ ตั้งแต่วัตถุดิบทางการเกษตร การขนส่ง ค้าปลีก โทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ แทบจะพูดได้ว่า “มองไปทางไหนก็เห็นแต่ธุรกิจที่ CP มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น”
น่าเสียดายที่เงินที่เราจ่ายไปในการใช้ชีวิตแต่ละวัน กลับกลายเป็นว่าเข้ากระเป๋าคน “น้อยลง” ทุกวัน เพราะการแข่งขันนี้ มีคนแข่งขันแค่ “คนเดียว” คนกำหนดราคาของสินค้าก็คงมีเพียงแค่ “คนเดียว”