รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ถ้าไม่ล็อคดาวน์ทั้งประเทศภายในสัปดาห์หน้า ลำบากระยะยาวครับ คงต้องเลือกเอาว่า จะทน 4 สัปดาห์ หรือจะเป็นแบบญี่ปุ่น
กระทั่งล่าสุด รศ.นพ.ธีระ โพสต์ข้อความอีกว่า สถานการณ์ทั่วโลก 4 มกราคม 2564 ทะลุ 85 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 503,182 คน รวมแล้วตอนนี้ 85,419,856 คน ตายเพิ่มอีก 7,014 คน ยอดตายรวม 1,849,411 คน
อเมริกา เกิน 21 ล้านไปเรียบร้อย เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 206,712 คน รวม 21,066,766 คน ตายเพิ่มอีก 1,524 คน ยอดตายรวม 359,834 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 16,354 คน รวม 10,340,985 คน
บราซิล ติดเพิ่มถึง 17,214 คน รวม 7,733,619 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 24,150 คน รวม 3,236,787 คน
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 12,489 คน รวม 2,655,728 คน
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักหมื่นต่อวัน
สำหรับเมืองไทยเรานั้น ตอนนี้ระบาดหนักมากครับ แต่ขอให้ไม่ท้อถอย ร่วมกันสู้สุดใจ สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับความจริงว่า สาเหตุหลักของการระบาดซ้ำครั้งนี้เกิดจากเรากันเองครับ
1. คนไทยที่ลักลอบกลับเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
2. คนที่อำนวยความสะดวกให้คนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
3. นายจ้างที่รับคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานโดยไม่ผ่านระบบการกักตัวและตรวจโรคโควิด-19 ตามที่ทางการกำหนด
4. เจ้าของธุรกิจที่ค้าขายโดยไม่ป้องกันตัว ทำให้แพร่สู่คนอื่นในสังคม
5. นักพนันมากมายที่ไม่มีสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม
6. นักเที่ยวสถานบันเทิง รวมถึงคนทำงานในพื้นที่เสี่ยง สถานที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมเสี่ยง
และสำคัญที่สุดคือ เจ็ด เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐและนักการเมืองที่คุมอำนาจนโยบาย ที่สร้างมายาคติ ทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าเอาอยู่ โรคธรรมดา โรคกระจอก คนเงินของเหลือเฟือ ระบบติดตามโคตรเจ๋งระดับโลก ทั้งๆ ที่หากพิจารณาตามข้อมูลที่เห็นจากการระบาดซ้ำของทั่วโลก โอกาสเอาอยู่นั้นน้อยมาก
ทั้ง 7 เรื่องดังกล่าว จึงอธิบายปรากฏการณ์ที่เราเห็นในปัจจุบัน การวิเคราะห์ตรง ๆ เช่นนี้ จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ ระมัดระวัง ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ส่วนหนทางสู้นั้น สกัดจากบทเรียนทั่วโลก มีกุญแจเพียง 3 ดอกคือ รัฐต้องประกาศมาตรการเข้มข้นเคร่งครัดอย่างทันเวลา (ไม่เกิน 4 สัปดาห์หลังจากเริ่มระบาดซ้ำ), ประชาชนต้องสู้ยิบตา ช่วยกันป้องกันตัวอย่างเต็มที่และพร้อมเพรียง, และระบบการตรวจโควิดนั้นต้องตรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาคนติดเชื้อทั้งจากกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง รวมถึงประชาชนทั่วไปในทุกพื้นที่ที่มีเคส ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีก็ตาม
ขอให้ทราบไว้ว่า สิ่งที่เรากำลังจะเผชิญนี้มีโอกาสสูงมากที่จะแรงกว่าเดิม นานกว่าเดิม อาจติดเชื้อสูงถึง 940 คนต่อวันหรือ 5 เท่าของระลอกแรก และต้องสู้นาน 88 วันหรือ 2 เท่าของระลอกแรก