ม็อบ19พฤศจิกา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ความขัดแย้งแบ่งฝ่าย สลายความรู้รักสามัคคี ของ คนในชาติ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ต่างฝ่ายต่างมุ่งหวังเอาชนะ ด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นคำกล่าวข้างต้นไม่ใช่คำกล่าวยุคปัจจุบัน แต่เป็นข้อความในแถลงการณ์อธิบายถึงเหตุผลการยึดอำนาจของ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หรือ 14 ปีที่แล้ว การชุมนุมเพื่อรณรงค์ให้สมาชิกรัฐสภารับร่างกฏหมายใดกฎหมายหนึ่งเป็นเรื่องปกติสามัญในระบอบประชาธิปไตย
สามารถ อ้าแขน รับ ช่อ -ธนาธร ให้หัดทำตัวแบบ สุภาษิต ต้นร้ายปลายดี หันมารักเทิดทูนสถาบันกษัตริย์
กลุ่มราษฎรผู้ชุมนุมเพียงแค่ต้องการแสดงออกถึงเสียงของพวกเขา เผด็จการกุมเสียงข้างมากในรัฐสภาอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งสภาและประชาชนทั่วไปรู้อยู่แต่แรกแล้วว่าร่างของ iLaw อย่างไรก็ไม่ผ่านการลงคะแนน แต่พวกเขาต้องการยืนยันในข้อเรียกร้องของตนเองเพียงเท่านั้น
ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ต้องใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ไม่มีเหตุผลใดเลยที่ปล่อยให้ผู้ชุมนุมปะทะกัน ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงมากมายประจำการอยู่บริเวณนั้น
เหตุผลเดียวที่ผมพอจะนึกออกก็คือ เผด็จการต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง สร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อด้วยวิถีทางปกติได้ จุดจบปลายทางคือสร้างสถานการณ์ เพื่อผลิตเหตุผลรองรับการแทรกแซงการเมืองด้วยวิธีการที่ไม่ปกติ และไม่เป็นประชาธิปไตย
การปะทะกันระหว่างกลุ่มราษฎรและมวลชนเสื้อเหลืองเมื่อวานถือว่าเป็นการปะทะกันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เป็นการยกระดับความขัดแย้งซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ไปสู่การเผชิญหญ้าและความรุนแรง เช่น ทำร้ายผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือฝั่งตรงกันข้าม ขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
เป็นการสร้าง “วิกฤต” ทำให้ผู้คนเห็นว่ากระบวนการตามรัฐธรรมนูญหรือประชาธิปไตยไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อเปิดช่องหรือเรียกร้องการแทรกแซงทางการเมืองของอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทหาร และตุลาการ พวกเขากำลังใช้ลูกไม้เดิม ๆ เพื่อผลักดันสังคมไปสู่จุดนั้นอีก
ผมให้กำลังใจทุกคน และขอคารวะหัวใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวทุกดวงที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพเพื่อพวกเราและลูกหลานเราที่หน้ารัฐสภาเมื่อวาน และที่ราชประสงค์ ณ เวลานี้
การเคลื่อนไหวของเยาวชนหนุ่มสาวเหล่านี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้ ทั้งในแง่เป้าหมายที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย และวิธีการที่อยู่บนฐานของปฏิบัติการไร้ความรุนแรงอย่างเคร่งครัด การชุมนุมอย่างสงบและสันติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้พิสูจน์ถึงความมีวินัยของพวกเขา
อย่ายอมให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเอาตัวรอดจากข้อเรียกร้องของประชาชนด้วยการสร้างสถานการณ์เพื่อการทำรัฐประหาร และหากพวกเขาทำรัฐประหารอีกครั้ง ครั้งนี้เราต้องต่อสู้ร่วมกัน มันต้องจบไม่เหมือนเดิม
ปารีณา จวก ธนาธร จงใจทวีตเสียดสีร้ายแรงพระราชดํารัสในหลวง
ธนาธร ไม่ห่วงม็อบชนม็อบที่รัฐสภา 17 พ.ย. นี้ พร้อมเตือนรัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร