16 ก.ย.63 นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีเนื้อหาที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บรรยายถึงนายณัฐวุฒิ โดยมีใจความว่า เรามีทั้งจุดร่วมและจุดต่าง ผมยอมรับว่าคุณณัฐวุฒิเป็นคนมีจิตใจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นคนที่สามารถพูดได้อย่างมีพลัง” สัมภาษณ์ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เพื่อนต่างพรรคของณัฐวุฒิ
‘ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ เกิดปี 2518 ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เกิดปี 2521 ทั้ง 2 คนอายุไล่เลี่ยกัน แต่ณัฐวุฒิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2544 ขณะที่ธนาธรลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกปี 2562 ทั้ง 2 คนจึงมีเส้นทางชีวิตเข้าสู่สนามเลือกตั้งในเวลาห่างกันถึง 18 ปี
ธนาธรเป็นเพื่อนต่างพรรคของณัฐวุฒิ เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด(2562) ณัฐวุฒิเป็นแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ขณะที่ธนาธรเป็นแกนนำพรรคอนาคตใหม่(อนค.)
สุดท้ายทั้ง 2 พรรคถูกยุบ โดยพรรคที่ณัฐวุฒิสังกัด ‘ไม่ได้ไปต่อ’ ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้งจะมาถึง ส่วนธนาธรได้เข้าปฏิญาณตนพร้อมกับส.ส.ในสภา แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่และต่อมาพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบ
ผลจากการยุบทั้ง 2 พรรคทำให้นักการเมืองหน้าใหม่หลายคนรวมถึงธนาธรถูกเพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ณัฐวุฒิ ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคทษช. แต่อาจได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขคุณสมบัติผู้สมัครฯ ที่รัฐธรรมนูญ 2560 วางไว้
ผมกับคุณณัฐวุฒิเนี่ย จะเรียกว่าสนิทก็เรียกได้ จะเรียกว่าไม่สนิทก็เรียกได้ เรามีโอกาสนั่งคุยกันหลายครั้ง ซึ่งการคุยกันของพวกเราทั้งหมดก็เป็นการพูดคุยกันถึงปัญหาบ้านเมือง พูดคุยกันถึงปัญหาประชาธิปไตยของประเทศไทย
แน่นอนที่สุด เรามีทั้งจุดที่เห็นร่วมกันและจุดที่เห็นต่างกัน แต่ยังไงก็อยากจะให้กำลังใจคุณณัฐวุฒิว่า ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทยวันนี้ ที่กระทำต่อคุณณัฐวุฒิและกระทำต่อผม สักวันหนึ่งเราจะทำให้ประเทศไทยมีความเป็นธรรมขึ้นมาได้ร่วมกัน ก็ขอให้กำลังใจขอให้มีพลัง อย่าหมดความหวังแม้ว่าขณะนี้จะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ในช่วงการชุมนุมตั้งแต่ปี 52-53 (สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)ผมเองก็มีโอกาสเข้าไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือนปช.ด้วย ตอนนั้นผมยังทำงานอยู่ในภาคธุรกิจ พอเลิกงานวันไหนถ้าไม่เหนื่อยล้าเกินไปนัก วันไหนเลิกงานเร็วก็จะเข้าไปที่ชุมนุมซึ่งในระหว่างชุมนุมก็จะได้ฟังคุณณัฐวุฒิปราศรัยหลายครั้ง
ต้องบอกว่า ในเรื่องของจิตใจของการเป็นนักต่อสู้ อันนี้ผมยอมรับว่าคุณณัฐวุฒิเป็นคนที่มีจิตใจของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นคนที่สามารถพูดได้อย่างมีพลัง มีพลังที่จะดึงผู้คนให้ฮึกเหิม ผมคิดว่านั่นเป็นคุณสมบัติของคุณณัฐวุฒิ
พวกเรามีจุดที่เหมือนกันก็คงเป็นเรื่องของการที่พวกเราอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย อยากเห็นความเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมทางด้านเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมด้านการเมือง
ส่วนข้อแตกต่างกัน ผมคิดว่าทุกคนก็คงรู้ว่าคุณณัฐวุฒิเคยเป็นแกนนำของพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ส่วนตัวผมเองเคยเป็นแกนนำของพรรคอนาคตใหม่(อนค.)