ธนาธร เผยความจริง พ่อค้า -แม่ค้า ความต่างสภาพเศรษฐกิจ ตลาดสด vs ตลาดหุ้น

นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เผยความจริงของสภาพเศรษฐกิจ : ตลาดสด vs ตลาดหุ้น โดยเล่าเรื่องราวของพ่อค้า แม่ค้า แผงผักผลไม้ และขายเนื้อ ระบุว่า

ธีระชัย ถามนายกฯตั้ง สุพัฒนพงษ์ เป็นรมว.พลังงานเพื่อประโยชน์ประชาชน หรือนายทุน

“ผักผลไม้ราคาแพงขึ้น แต่พี่ขึ้นราคาไม่ได้ เดี๋ยวลูกค้าจะหนีไป ลูกค้าน้อยลงเยอะ แค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว”

“หมูราคาขึ้น เป็ดราคาก็ขึ้น ผมพยายามขึ้นราคาให้น้อยที่สุด โรงงานที่ไปรับมาเขาบอกว่ายอดขายเขาน้อยลง เลยต้องขึ้นราคา”

“อยู่ไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาจ่ายค่าห้อง ค่าแผงทีไรเหนื่อยใจทุกที ราคาไข่ก็ขึ้น เราขึ้นราคาเต็มก็ไม่ได้ ลูกค้าประจำทั้งนั้น ลูกสาวที่มาช่วยขาย บางทีนั่งร้องไห้ ไม่รู้จะไปยังไงต่อ เมื่อก่อนมีข้าวของขายเต็มแผง วันนี้แผงมีของวางไม่ถึงครึ่ง เงินหมุนลดลงทุกวัน ไม่มีทุนไปซื้อของมาวาง” แม่ค้าขายไข่และของชำเล่าให้ผมฟังด้วยแววตาเศร้าๆ

“ผมขายเสื้อผ้ามาสิบปี แต่ก่อนขายได้เดือนละแสนกว่า เดี๋ยวนี้เหลือห้าหมื่น เพิ่งส่งลูกกลับไปเรียนต่างจังหวัดที่บ้าน รับผิดชอบค่าเรียนในเมืองไม่ไหว กำลังจะขายโละร้าน เอาเงินไปจ่ายหนี้ แล้วกลับบ้านที่ใต้ โชคยังมี ที่บ้านยังมีสวนปาล์มอยู่” พ่อค้าแผงเสื้อผ้าบอกกับผมด้วยน้ำเสียงที่ข่มขื่น

ในรอบเดือนที่ผ่านมา ผมไปเดินพบปะพี่น้องประชาชนในตลาดสดหลายแห่งทั่วประเทศไทย เสียงบอกเล่าและเรื่องราวต่างๆ ที่ได้รับฟังปัญหาความทุกข์ของพี่น้องประชาชนมันช่างน่าหดหู่ ยิ่งตอกย้ำความเป็นจริงว่าเศรษฐกิจปัจจุบันเลวร้ายกว่าตัวเลขจีดีพีที่เห็นมาก

พิธา เสนอตั้งคณะกมธ.วิสามัญฯแก้ปัญหาสุขภาพประชาชนทำ เหมืองแร่

ขณะที่หลายสำนักประมาณการเศรษฐกิจติดลบ 7-10 % ความเห็นส่วนใหญ่ของพ่อค้าแม่ขายในตลาดสดที่ผมพบเจอบอกว่ายอดขายพวกเขาลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง พวกเขามีลูกต้องเลี้ยงดู, ห้องต้องเช่า, ค่าน้ำค่าไฟต้องจ่าย ขณะที่ราคาข้าวของแพงขึ้นทุกวัน

ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารปี 2557 สถานการณ์มีแต่เลวร้ายลง และตกต่ำสุดเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส

จนประชาชนหมดหวัง มองไม่เห็นทางที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ตัดภาพกลับไปที่ตลาดหุ้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นปีด้วยดัชนี 1,575 จุด ปัจจุบันยืนอยู่ที่ 1,342 จุด หรือลดลง 14.8 % ตลาดหุ้นไทยตื่นตระหนกกับสถานการณ์โควิดเพียงสั้นๆ ช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคมที่ดัชนีตกลงเหลือ 1,000 จุดก่อนจะค่อยๆ ไต่ระดับมาถึงปัจจุบัน

เมื่อตลาดตื่นตระหนก รัฐบาลได้ออกมาตรการในรูปแบบพระราชกำหนดมาสองฉบับ ฉบับแรกเพื่อพยุงเสถียรภาพตลาดหุ้นกู้ และฉบับที่สองเพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงเงินกู้เพิ่มเติมได้

รัฐบาลออกมาตรการตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นกู้ หรือที่เรียกว่า Bond Stabilization Fund เป็นจำนวน 4 แสนล้านบาท ตลาดหุ้นกู้ทั้งหมดมีมูลค่า 3.8 ล้านล้านบาท หุ้นกู้ที่เข้าข่ายได้รับการสนับสนุนจากมาตรการนี้ 8.9 แสนล้านบาท จาก 8.9 แสนล้านบาทของหุ้นกู้ที่เข้าข่ายได้รับการสนับสนุน เป็นหุ้นกู้ของบริษัทขนาดใหญ่ 4 บริษัทถึง 42 เปอร์เซนต์ ได้แก่ ไทยเบฟ, ซีพี, เอสซีจี และ ช.การช่าง

ขณะที่กองทุนเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดมีขนาด 5 แสนล้านบาท สินเชื่อทั้งหมดในระบบธนาคารมีมูลค่า 15.3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและเล็กมีมูลค่า 5.1 ล้านล้านบาท

กองทุนเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดกลางและเล็กมีขนาดเพียง 10 เปอรเซนต์เมื่อเทียบกับสินเชื่อเอสเอ็มอีในระบบธนาคาร ขณะที่กองทุนพยุงหุ้นกู้มีขนาด 45 เปอร์เซนต์ของหุ้นกู้ที่เข้าเงื่อนไข ตลาดหุ้นกู้ได้รับการพยุงเป็นสัดส่วนมากกว่าตลาดเงินกู้เอสเอ็มอีอย่างมีนัยยะสำคัญ

กองทุนเงินกู้เอสเอ็มอียังให้เฉพาะธุรกิจที่มีสินเชื่อกับธนาคารอยู่แล้ว ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ที่ลำบากจริงๆ และไม่มีเงินกู้อยู่กับธนาคารเข้าไม่ถึงกองทุนนี้ นอกจากนี้รัฐยังรับประกันเงินต้นให้กับธนาคารในกรณีที่เอสเอ็มอีไม่สามาถจ่ายคืนได้ถึงร้อยละ 70 ประชาชนจึงสงสัยว่ากองทุนนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออุ้มธนาคารหรืออุ้มเอสเอ็มอีกันแน่?

สองมาตรการนี้ บวกกับการกู้ฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ทำให้ตลาดหุ้นสามารถรักษาระดับดัชนีปัจจุบันประมาณ 1,300-1,400 จุดได้

แต่มันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้

เงินส่วนหนึ่งที่ถูกอัดฉีดเข้ามา ในระบบเศรษฐกิจที่ผูกขาด ย้อนกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนขนาดใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม

เงินอีกส่วนหายไปเพราะการเปิดรับการเข้ามาของจีนอย่างไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศ เงินไหลจากตลาดจริงสู่ตลาดออนไลน์, จากข้าวของในประเทศสู่ข้าวของจากจีน, จากภาคที่จ่ายภาษีสู่ภาคที่ไม่จ่ายภาษี

เงินอีกส่วนหายจากภาคการผลิตจริงสู่ตลาดทุน ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 2.3 แสนล้านบาทจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันเข้าซื้อในจำนวนเท่ากัน เมื่อไม่มีโอกาสทางธุรกิจให้ลงทุนเพิ่ม เงินจึงไหลเข้าซื้อทรัพย์สินทางการเงิน พยุงราคาของหุ้นไว้ไม่ให้ตกลง

เมื่อนำปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มารวมกัน ความเป็นจริงของตลาดสดจึงหดหู่กว่าความเป็นจริงของตลาดหุ้น

วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจกับคนจนมากกว่าคนรวย แต่มาตรการที่ออกมาอุ้มคนจนน้อยเกินไป ช้าเกินไป และกระมิดกระเมี้ยนเกินไป ไม่สมสัดส่วนความเดือดร้อน

ชังชาติ ?!? ว่าแต่ “ชาติ” คืออะไร? ปิยบุตร บรรยายโต้ บิ๊กแดง

ขณะที่มาตราการที่ออกเพื่อกลุ่มทุนรวดเร็วฉับไว เสมือนหนึ่งพวกเขาประกอบธุรกิจโดยไม่มีความเสี่ยงเลย

การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยลดค่าเช่าและค่าสัมปทานให้กับ บริษัท คิงเพาเวอร์ ทำให้รายได้ที่รัฐสามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้ลดลงไปอีก กองทัพยังซื้ออาวุธต่อไปไม่หยุด ไม่มีความพยายามใดๆ จากรัฐบาลที่จะดึงเงินสดที่เหลืออยู่มากในรัฐวิสาหกิจและกองทุนต่างๆ ภายใต้การดูแลของรัฐบาลส่งคืนกลับรัฐเพิ่มขึ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงที่เงินเยียวยาประชาชนก้อนสุดท้ายกำลังหมดลง

ในสังคมเดียวกัน คนรวยและคนมีอำนาจดูเหมือนอยู่คนละโลกกับคนจนที่หาเช้ากินค่ำ วันที่ประชาชนกู่ร้องก้องตะโกนถึงความลำบากของพวกเขา รัฐบาลกลับบอกให้พวกเขาทำตามกฏหมาย ข่มขู่ คุกคามด้วยคดีความ ประชาชนตัวเล็กตัวน้อยมีภาระชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หนี้สินที่ต้องแบกรับไปจนสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน

ในขณะที่คนรวยและคนมีอำนาจ ได้รับสิทธิประโยชน์ ได้รับการชดเชยเยียวยา ก่อนใคร

ความเจ็บปวด ความไม่พอใจของประชาชนที่ส่งเสียงออกมา ไม่ใช่เพราะใครอื่น นอกจากการกระทำของรัฐบาลประยุทธ์เอง

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ตร.น้ำดี ฮึดไล่จับ! หนุ่มคลั่งทุบรถ หลังถูกคว้าปังตอวิ่งไล่ฟันหัวโดน 3 แผล

รองสารวัตรจราจรกลาง เข้าระงับเหตุ ชายคลุ้มคลั่งเอาค้อนทุบรถ ถูกวิ่งเอาปังตอ ร้านก๋วยเตี๋ยวฟันหัว 3 ครั้ง อึดจับคนร้ายรวบตัวได้สำเร็จ

ไวรัล! แมวส้มในสนามบิน “หนูหรั่ง” ขวัญใจ นทท. ที่นั่งบนราวบันไดเลื่อน

ไวรัลสุดน่ารัก! “หนูหรั่ง” แมวส้มที่กำลังนั่งอยู่บนราวบันไดเลื่อน สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าของเผยสาเหตุ ที่ทำให้ต้องตามไปถึงสนามบิน

เช็กลิส! 5 อาหารยอดนิยม เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ โรคหูดับ

ดับฝันซอยจุ๊เลิฟเวอร์ สบส. เตือน! กินอาหารดิบเสี่ยงไข้หูดับ พยาธิใบไม้ตับ พร้อมเผยชื่อเมนูสุดฮิตที่ใครๆก็ต้องเคยลอง

หนุ่มใหญ่ วัย 60 ปี ตัดสินใจ! กินยาฆ่าแมลง จบชีวิตสลดบนรถไฟ

สลด! ผู้โดยสาร วัย 60 ปี เสียชีวิตคาตู้โบกี้รถไฟ ที่เกิดเหตุพบ “ยาฆ่าแมลง” คาดผู้ตาย ตัดสินใจ กินเข้าไปก่อนรถไฟจะมาถึงสถานี

ร้อนไม่ไหว! วิธีคลายร้อนของวัยแรงงาน ด้วยสมุนไพร ช่วยให้ร่างกายเย็นลงได้

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผย วิธีรับมือปัญหาสุขภาพ เมื่อต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อน ด้วยสมุนไพรไทย ช่วยได้จริง!

ชาวบ้าน ผงะ! พบศพชาวต่างชาติ ผูกคอดับปริศนา ร่างติดอยู่กับราวสะพาน

ชาวบ้านเขตบางรัก เปิดเผย เคยเห็นชาวต่างชาติ เดินเร่ร่อนแถวนี้บ่อย คล้ายคนสติไม่ดี ก่อนมาพบเป็น ศพผูกคอดับปริศนา สภาพศพรอยอืดน้ำ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า