จากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 นาย ถวิล ไพรสณฑ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลแบบตลอดชีพ โดยไม่ประสงค์ที่จะลงสมัครเลือกตั้ง และพร้อมจะช่วยงานพรรคในทุกๆด้านเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ นายถวิลได้ให้เหตุผลว่า ต้องการเดินหน้าทำงานเพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ตนสนใจ
เทพไท ยอมรับคาดไม่ถึง ถวิล ไพรสณฑ์ ทิ้งประชาธิปัตย์ไปอยู่ก้าวไกลแบบจริงจัง
ในส่วนของประวัติส่วนตัว นายถวิลเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2480 ที่อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอายุ 84 ปีครอบครัวเป็นชาวสวนชาวนา เข้าเรียนในระดับประถมที่โรงเรียนบ้านนาวา ต่อมาจึงได้เข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร ในกรุงเทพมหานคร
ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นก็สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และพบการศึกษาปริญญาเอกจากคณะรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ประเทศสหรัฐฯ
ส่วนของประวัติหน้าที่การทำงาน นายถวิล เข้ารับราชการเป็นปลัดเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ต่อมาจึงได้ย้ายเข้ามาเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีกรุงเทพมหานคร และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าเขตพระนคร เขตบางขุนเทียน และเป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรุงเทพมหานคร
ในปี พ.ศ. 2526 ถวิล ไพรสณฑ์ จึงได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยแรก และสมัยที่สอง ปี 2529 พรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นเขาจึงย้ายมาร่วมตั้งพรรคการเมืองกับกลุ่มของนายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ คือ พรรคประชาชน
ต่อมาถวิลจึงได้ย้ายมาลงสมัครในกรุงเทพมหานคร เขต 9 ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคพลังธรรม และได้รับการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ทั้งยังได้รับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2535 และตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2538 ด้วย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539 จึงได้ย้ายกลับไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิมอีกครั้ง