วันที่ 8 มิถุนายน 2563 นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่าได้รับฟังเสียงสะท้อนหลายเรื่องจากประชาชนใน จ.ลำปาง ถึงความลำบากในการดำรงชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่บอกกับตนว่าหลังเลือกตั้งหลายอย่างในชีวิตยังไม่มีอะไรดีขึ้น แม้รัฐบาลบอกว่ามีนโยบายหลายอย่างมาช่วย แต่มันเหมือนรดน้ำบนต้นและใบ ส่วนรากนั้นน้ำมาไม่ถึงและกำลังยืนตายซาก และยิ่งมาเจอสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เข้ามาเพิ่มเหมือนตายทั้งเป็น และหนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เสียอีก เพราะการดูแลประชาชนของรัฐบาลนี้ไม่ทั่วถึงและมั่วมาก โดยเฉพาะการแจกเงินช่วยเหลือในหลายรูปเเบบของรัฐบาล คนที่เดือดร้อนจริงๆ หลายคนไม่ได้รับการเยียวยา เเม้จะยื่นอุทธรณ์ไปเเล้วก็ไม่ผ่าน เเต่คนที่ไม่ค่อยเดือดร้อนเเละลงทะเบียนผ่านนั้นก็มีเยอะ
น.ส.นภาพร กล่าวว่า ประชาชนบ่นว่ารัฐบาลปล่อยให้พวกเขาตายซาก ปัญหาเเหล่งน้ำไม่พอทำการเกษตรตั้งเเต่ปีที่เเล้วก็เเจ้งไป เเต่คำตอบคือนิ่ง ปีนี้ฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาลมาตรการการเกษตรของรัฐบาลตอนนี้ไม่ชัดเจนเกษตรกรก็ลำบาก เเละยังได้ยินประชาชนบ่นว่าสงสัยคนที่ผู้สื่อข่าวเรียกว่า 3 ป. สนใจเเต่การปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ เเละ ครม. หลังกฎหมายกู้เงิน 3 ฉบับรวม 1.9 ล้านล้านบาทผ่านเเล้ว 3 ป. น่าจะสนใจงานการเมืองในพรรคเเละการเเบ่งเค้กมากกว่าความลำบากของชีวิตประชาชน โดยหัวหน้าพรรคของตนกำชับพวกตนว่าต้องตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ อย่าให้การทุจริตเกิดขึ้น หากพบสิ่งผิดปกติให้ตรวจสอบเเละเเจ้งให้สังคมรับรู้ทันที
“ขอฝากถึง 3 ป. ว่า ควรห่วงชีวิตคนไทยมากกว่าห่วงอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ เเละ ครม. เพราะหลายปีที่ 3 ป. ดำเนินการบริหารประเทศนั้น ประชาชนเเทบไม่มีอะไรดีขึ้นในชีวิต เเละมีข่าวประชาชนฆ่าตัวตายหลายครั้ง ดังนั้น 3 ป. ควรพิจารณาใหม่ว่าตอนนี้ควรห่วงอนาคตของประชาชนหรืออนาคตตัวเองบนเวทีการเมืองมากกว่ากัน” น.ส.นภาพร กล่าว