ประชาชนปลดแอก — นาย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊คถึง กรณีที่มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล จนทำให้การตั้งข้อสงสัยว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวต้องมีท่อน้ำเลี้ยง และผู้อยู่เบื้องหลัง โดยนาย นรินท์พงศ์ได้ระบุถึ 3 ตัวการที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของคณะประชาชนปลดแอกไว้ดังนี้
ผมในฐานะส่วนตัว ขอแสดงความคิดเห็นว่าแท้จริงแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังอันเป็นต้นเหตุให้เกิดการชุมนุม การต่อต้านเผด็จการ ของประชาชน นักศึกษา และนักเรียน ก็คือ
1. รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560
ผลพวงของรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560 ซึ่งมีที่มาจากความไม่เป็นประชาธิปไตย และผ่านการลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญด้วยการปิดปาก จับกุมดำเนินคดีผู้เห็นต่าง รวมทั้งการมี สว.แต่งตั้ง 250 เสียง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสืบทอดอำนาจ พิษของรัฐธรรมนูญนี้ทำให้เกิดผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน
เพื่อไทย เตรียมยื่นญัติ แก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังสังเกตการณ์ ม็อบ ประชาชนปลดแอก
ส่งผลให้เกิดรัฐบาลผสมที่ไร้เสถียรภาพ การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ทำให้เศรษฐกิจ สังคม การเมืองตกต่ำ ประชาชน ทุกข์ยาก ลำบาก แสนเข็ญ ซึ่งถือเป็นกับดักของรัฐธรรมนูญและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประเทศเสื่อมถอย ไม่เป็นประชาธิปไตย และขัดกับหลักนิติธรรม สร้างภาระหนักอันส่งผลลบต่อการพัฒนาประเทศในทุกด้าน
คณะ ประชาชนปลดแอก แถลงการณ์ปิดการชุมนุม หยุดคุกคามปชช. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยุบสภา
2. ระบบยุติธรรมเสื่อมถอยไร้มาตรฐาน ประชาชนขาดศรัทธาและความเชื่อถือ
3. การคุกคาม ข่มขู่ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนผู้เห็นต่าง
จากข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่า การชุมนุมในครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ต้องเสียสละอดทน ตากแดดฝน เสี่ยงต่อภยันตรายจากผู้ไม่หวังดี และการปราบปรามของรัฐบาล ก็เพียงเพื่อต้องการประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์กลับคืนมาเท่านั้น รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องหาสาเหตุ มากล่าวอ้างว่า
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมในครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะ ต้นเหตุและปัญหาที่แท้จริง มันคือ การที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เบื่อหน่าย อึดอัด และรับไม่ได้ ในความล้มเหลวของรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ฟอร์ด ทัตเทพ เรียกร้องให้ รัฐสภา กล้าที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน
ฉะนั้น การชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิไตย และต่อต้านเผด็จการของประชาชน ในฐานะเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศ จึงถือเป็นการหาทางออกให้ประเทศ การร่วมมือ ร่วมใจ ของภาคสังคมและประชาชน คือการรณรงค์เพื่อให้เกิดรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันจะเป็นการเดินหน้าสู่การปลดล็อค เพื่อให้ประชาชนได้กำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกัน เกิดฉันทามติ เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยประชาชน และเพื่อประชาชน