วันที่ 17 ต.ค. 63 เฟซบุ๊ก บีบีซีไทย รายงานว่า นางสาวราวินา ชัมดาซานิ โฆษกสำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยแสดงความกังวลเรื่องที่ทางการไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ชี้จะส่งผลเสียต่อการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
ธรรมศาสตร์และการชุมนุม แถลงการณ์จัดชุมนุมต่อ 17 ต.ค.63
นัดแล้ว! ธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศชุมนุม บ่าย 3 ทุกสถานีรถไฟฟ้า
ปิยบุตร ร้อง ตำรวจ-ทหาร วางอาวุธ แล้วมายืนข้างประชาชน
นางสาวราวินาระบุว่า การประท้วงดำเนินไปอย่างสันติเป็นส่วนใหญ่ โดยรวมแล้วทางการได้เคารพพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ แต่เรามีความกังวลเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในตอนเช้าวานนี้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการชุมนุมในวันก่อนหน้านั้น ซึ่งที่จริงเป็นการชุมนุมโดยสงบเป็นส่วนใหญ่ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อการใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับการรับรองโดยพันธสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งไทยเป็นภาคี
เรามีความกังวลเรื่องการควบคุมตัวและจับกุมนักกิจกรรม รวมทั้งผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนหลายคน ซึ่งรวมถึงผู้เข้าร่วมในการประท้วงตัวเลขล่าสุดที่เรามีคือมีผู้ถูกจับกุม 57 คน ระหว่างวันที่ 13-16 ตุลาคม ในจำนวนนี้ 6 คนได้รับการปล่อยตัวแล้ว และที่เหลือยังคงอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจจนถึงขณะนี้ เรายังมีความเป็นห่วงอย่างยิ่งเรื่องการตั้งข้อหาร้ายแรงหลายข้อหา รวมถึงข้อหาปลุกระดมมวลชน ต่อบุคคลที่ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของตนเองอย่างสันติ
ทั้งนี้ เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลรับรองว่าจะไม่มีผู้ใดตกเป็นเป้าหมาย ถูกคุมขัง หรือถูกตั้งข้อหาร้ายแรง ต่อการที่พวกเขาใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการชุมนุมและแสดงออกโดยสันติ พร้อมขอรับรองว่าจะมอบการคุ้มครองทางสิทธิและกฎหมายอย่างเป็นระบบ สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวทุกคน รวมถึงการติดต่อกับทนายความและครอบครัวได้ตลอดเวลา