เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 นาย วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการปรับกระบวนการปฏิรูปประเทศ ว่า สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงใหญ่นี้ มีผลกระทบต่อประเทศอย่างมหาศาลในหลายด้าน ทุกสิ่งทุกอย่างในการบริหารประเทศต้องเปลี่ยนแปลงกันใหญ่ ในเรื่องเหล่านั้นก็มีเรื่องของการปฏิรูปประเทศ ต้องมีการยกเครื่องปรับเปลี่ยนรองรับต่อการขับเคลื่อนประเทศ ที่กำหนดกันไว้เป็นร้อยเรื่องปฏิรูปเป็นพันกิจกรรม ในสถานการณ์และเวลาที่เหลืออยู่ไม่เกิน 3 ปี คงไม่ทันการแน่ ต้องเลือกเรื่องใหญ่ประเด็นสำคัญที่โดนใจความต้องการของประชาชนและเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงให้เห็นมรรคเห็นผล ถ้าเอาทุกเรื่องมาทำคงไม่ทันและก็จะถูกโจมตีกล่าวหาว่าแผนการปฏิรูปเป็นแผนลวงโลกที่สักแต่ว่ามีแผนเท่านั้นแต่ทำไม่ได้จริง
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวต้องเปลี่ยนทั้งแผนและกระบวนการจัดการตามแผนเสียใหม่ ไม่เช่นนั้นก็จะกล่าวหากันไปกล่าวหากันมาว่า ฝ่ายโน้นไม่ทำฝ่ายนี้ไม่ทำ แต่คนที่จะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ก็คือรัฐบาล และ ส.ว. ในฐานะที่จะต้องติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดต่อการปฏิรูป
“ผมเห็นว่าระยะเวลาที่ผ่านมาคงต้องยกเครื่องกันใหม่ทั้งกระบิ เลิกกล่าวหาโทษกันไปโทษกันมาได้แล้ว ทั้งรัฐบาล ทั้งส.ว. และข้าราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องหันหน้าเข้าหากัน ทำการปฏิรูปอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่สักแต่ว่าเป็นตัวหนังสือเป็นเอกสารที่ผ่านมาผ่านไป เอาอย่างนี้ดีไหมให้หน่วยงานแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปฏิรูปทั้งหมดทุกกระทรวง ทบวง กรม เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนไปนั่งเรียงลำดับจับประเด็นสำคัญที่จะต้องปฏิรูปให้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้เป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างที่ทำกันมา ต้องคัดเอาเรื่องเด่น ๆ และเป็นความต้องการกันทุกภาคส่วน ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องนั่นแหละคัดเลือกจากแผนปฏิรูป เอาให้ชัด เอาให้จริง แล้ว ส.ว. ก็ติดตามเสนอแนะเร่งรัดและรัฐบาลก็เอาด้วย ช่วยกันทั้ง 3 ส่วน ไม่จำเป็นต้องทำถึงร้อยเรื่องพันกิจกรรมตามที่มีอยู่ในแผนนั่นหรอก เลิกเสียเถอะวิธีเก่า ๆ แบบเดิม ๆ บ้านเมืองมันไฟลนก้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันรุมเร้าไปหมด คิดแบบเดิมทำแบบเดิมไปไม่รอดแน่” นายวันชัย กล่าว