หมอวรงค์ — นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดีได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊กระบุว่า “ช่วงนี้ได้เห็นคลิป ที่น้องๆนักศึกษารณรงค์ การไม่เข้ารับพระราชทานปริญญา
ผมเข้าใจในธรรมชาติของวัย ที่เร่าร้อน อ่อนประสบการณ์ ด่วนตัดสินใจ จึงเป็นกลุ่มเป้าหมาย ของนักการเมืองบางกลุ่ม ฉวยโอกาสเข้ามา
สิ่งที่น้องๆต้องรู้คือ การพระราชทานปริญญาครั้งแรกของประเทศ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2473 ซึ่งพระราชทานให้บัณฑิตคณะแพทย์ ของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
ในยุคนั้นถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของประเทศ ไม่ใช่แค่ครอบครัว ที่ประเทศมีบัณฑิตระดับปริญญา จึงเชิญแขกเหรื่อทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อเป็นการให้เกียรติบัณทิต
หมอวรงค์ จะไม่ทนอีกต่อไป! นัดรวมพลชุมนุมปกป้องชาติและสถาบันฯ 30 ส.ค.นี้
กลุ่มไทยภักดี แจ้งย้ายที่ชุมนุม เป็นสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
หลังจากนั้น จึงได้ขอพระราชทานราชานุญาติให้เป็นธรรมเนียมสืบต่อมา จนถึงรัชกาลปัจจุบัน และสถาบันอุดมศึกษาของรัฐอื่นๆ ก็ดำเนินตามธรรมเนียมนี้
สิ่งที่น้องๆต้องคิดคือ การที่น้องจะไม่รับปริญญา น้องคงได้ความสะใจ แต่ความภูมิใจ ของพ่อแม่พี่และน้อง ที่รอคอยวันนี้ถูกทำลาย ความใฝ่ฝันของเด็กๆที่เห็นและต้องการสวมครุย ก็ถูกทำลาย ที่สำคัญคือ ความทรงจำดีๆเมื่อน้องเป็นผู้ใหญ่ก็จะถูกทำลาย และทุกอย่างเรียกกลับไม่ได้ ได้เพียงแค่ความสะใจชั่ววูบ
สิ่งที่น้องต้องรู้คือ เมื่อจะไม่รับปริญญาน้องๆคิดว่า คุณภาพชีวิตของน้อง ของประชาชนจะดีขึ้นไหม ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะน้องๆวิเคราะห์โจทย์ปัญหาประเทศผิด เนื่องจากได้รับข้อมูลแบบผิดๆว่าปัญหาประเทศมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์
อุ๊ หฤทัย ประกาศร่วมชุมนุมแสดงพลังป้องกับสถาบันกับหมอวรงค์ 30 ส.ค.นี้
คนที่ให้ข้อมูลน้องๆ เขายกเมฆขึ้นมา กล่าวหาลอยๆแบบไม่มีที่มาที่ไป ทั้งๆที่ความเป็นจริงปัญหาประเทศ มาจากนักการเมืองทั้งสิ้น ทั้งทุจริตคอรัปชั่น ใช้อำนาจไม่ชอบ ไม่ยึดประโยชน์ประชาชน ปล่อยให้ระบบราชการกินสินบนใต้โต๊ะ
ต้องย้ำว่าถ้าน้องๆเอาพลังไปตรวจสอบการทุจริต ใช้อำนาจไม่ชอบ ของนักการเมือง ช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงประเทศ กับการที่น้องๆต้องล้มล้างสถาบันฯ สิ่งไหนประชาชนและตัวน้องเองจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน
ถ้าอยากรู้ความจริง วันที่ 30 สิงหาคมนี้ เวลา 14.00น.-18.00 น. มาฟังความจริง ที่ถูกต้อง ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง หรือติดตาม live ได้ที่เพจ ไทยภักดี ประเทศไทย”