วาสนา นาน่วม | จากกรณี ที่มีข่าว ทหารอียิปต์ ติดเชื้อโควิด-19 และทางรัฐบาลได้ให้เดินทางเข้าไทยมาได้โดยที่ไม่ต้องกักตัว ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงทั่วจังหวัดระยองที่ทหารคนดังกล่าวได้เดินทางไปพักและเที่ยวเล่น
ล่าสุดทางด้าน ผอ.ศบค.ทบ. ได้เผยการวางแผนรับทหารไทย 151 นายกลับบ้าน จากฮาวาย หลังฝึก Lightning Forge 2020 จบ และยังได้บอกอีกว่า ทหารไทย ระเบียบวินัยเป๊ะ! ไม่มี หนีเที่ยว ซ้ำรอย ทหารอียิปต์ แน่นอน
วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam โดยระบุว่า
“ยัน ทหารไทย ระเบียบวินัยเป๊ะ!
ไม่มี หนีเที่ยว ซ้ำรอย ทหารอียิปต์
“ผอ.ศบค.ทบ.” แจงยิบ แผน รับ 151 ทหารไทย กลับจากHawaii
หลังฝึก Lightning Forge 2020 จบ สั่ง คุมเข้ม อาวุธยุทโธปกรณ์ ฆ่าเชื้อ หลายรอบ ยัน ฝึกในค่ายปิด ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ยึดมาตรการเคร่งครัด ชี้กลับมา SQ ที่ แอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน
“บิ๊กแดง” สั่งทำการบ้าน บทเรียนจากการฝึก AAR เพิ่มมาตรการพิเศษ
ยันทหารไทยระเบียบวินัยเป๊ะไม่มีหนีเที่ยวเหมือน ทหารอียิปต์ “
.
“บิ๊กจ๊าบ” พลเอกณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ผอ.ศบค.ทบ. กล่าวว่า กองร้อยทหารไทย 151 นาย ที่ไปฝึก Lightning Forge2020 กับ ทบ.สหรัฐอเมริกา ที่Hawaii แล้ว เตรียมเดินทางกลับไทย 22 กค. นี้
แล้วเข้ากักตัว ที่State Quarantine ที่โรงแรม แอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน พัทยา ชลบุรี เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 23 กค.-5สค.2563
คณะทหารไทย จะเดินทาง โดย การบินไทย เช่าเหมาลำ ทั้งไปและกลับ โดยขากลับ มาเที่ยวบิน
TG 8087 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 1640 น.
ทั้งนี้ การฝึก Lightning Forge2020 ร่วมกับ กองพลทหารราบที่ 25 ของ ทบ. สหรัฐฯ เป็นเรียนรู้การฝึก ยุทโธปกรณ์ใหม่ ยุทธวิธีใหม่ และการใช้ระบบOCT ระบบใหม่ ที่เราเร่งศึกษา และนำมาใช้
จากนั้น ในเดือน ตค. นี้ จะเดินทางไป ฝึกตรวจสอบที่ JRTC , Fort Polk ที่รัฐ,Louisiana. เช่นการฝึก ในปี 2019 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้การฝึกครั้งนี้ มีความพิเศษ คือ มีแต่ นายทหารยศ ร้อยตรี ร้อยโท จากทุกกองทัพภาค และ นักเรียนนายร้อย จปร. ชั้นปีที่5 จำนวน 45 นาย ที่ไปฝึกแทนค่า ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก
โดยตลอดการเดินทาง และการฝึก ได้ยึดมาตรการป้องกันโควิดฯ อย่างเคร่งครัด
เพราะ ขาไป เมื่อไปถึง ฮาวาย ทางสหรัฐฯตรวจ Swap 1. ครั้ง แล้วกลับมาถึง สุวรรณภูมิ จะตรวจอีกครั้ง ก่อนเข้า SQ
ทั้งนี้ภารกิจการฝึกฯ ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังพลจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ใน 22 ก.ค. 63 เวลาประมาณ 17.40 น. โดยกองทัพบกได้เช่าเหมาลำอากาศยานของบริษัทการบินไทย ในการเคลื่อนย้ายกำลังพลทั้งไปและกลับ
ในการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 (LF20) กำลังพลได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดภายใต้มาตรการฝึกแบบ Bubble Training ซึ่งกำลังพลทุกนายจะฝึกภายในพื้นที่ควบคุมที่มีการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้กำลังพลออกนอกพื้นที่ฝึก
โดยก่อนเดินทางกลับจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็จะปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับเข้าประเทศทุกประการ
ทั้งนี้ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้สั่งเพิ่มเติมพิเศษ โดยให้จัดเป็นกลุ่ม และ มีเอกสาร มี หมายเลข 1-151 เมื่อกำลังพลเดินทางมาถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกนายจะสวมใส่หน้ากากอนามัย และแว่นตาป้องกัน เน้นมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Social distancing)
โดยดำเนินการคัดกรอง ณ จุดจัดครองด่านควบคุมโรคติดต่อ ภายในอาคารผู้โดยสาร ตามขั้นตอนที่ ศบค. กำหนด
พร้อมจัดชุดแพทย์ เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประสานการปฏิบัติกับชุดแพทย์ที่ประจำ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนการเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังพื้นที่กักกันโรค State Quarantine ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 22 ก.ค.นั้น ภายในรถโดยสารได้มีการจัดทำกระจกกั้นแยกระหว่างห้องพลขับและห้องผู้โดยสาร โดยจัดเตรียมวิทยุไว้สำหรับการติดต่อสื่อสาร การจัดเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อประจำรถทุกคัน การจัดที่นั่งมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่มีการแวะพักระหว่างการเดินทาง มีการจัดรถพยาบาลพร้อมชุดแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามขบวนตลอดการเดินทาง
ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำไปทำการฝึกนั้น ได้แยกไปดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ตั้งแต่คลังสินค้า
ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยัง ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา แต่จะยังไม่เปิด เป็นเวลา3 วัน ก่อนที่ล้างสิ่งปนเปื้อนเพื่อฆ่าเชื้ออีกครั้ง ก่อนที่จะนำเก็บเข้าไว้ในคลังยุทโธปกรณ์ของหน่วย
และมีเครื่องป้องกัน แมสก์ และสวมแว่นตาใส เว้นระยะห่าง โดยมี กรมแพทย์ทบ.โดยทีมแพทย์ รพ. มงกุฎ มาสนับสนุน ที่สุวรรณภูมิ โดยเราต้องตรวจเองตลอด เราวางใจในระบบการตรวจของเรา และ จัดรถปรับอากาศ. แยกผนังกัเน คนขับ คันละ25 นาย
ที่โรงแรม แอมบาสซาเดอร์ มีทั้งหมด342 ห้อง ใช้สำหรับทหาร 145 ห้อง มีพิ่นที่เหลือเฟือพอ โดย มทบ.14 ดูแล ผบ.ควบคุมพื้นที่ ร่วมกับ รพ ค่ายนวมินทราฯ และ รพ.ค่ายสุรนารี กองพันเสนารักษ์(พันสร) ที่.22 และ ศบค
โดยมีโรงพยาบาลสิริกิติ์ สัตหีบเป็นโรงพยาบาลคู่ขนาน มีcctv งดเยี่ยม ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา โดยใช้การสื่อสารด้วยระบบแอพพลิเคชั่น ที่เป็นระบบปิด
โดยในระหว่างการกักตัวนั้น จะมีนักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาและเมื่อกักตัวครบ 14 วันจะมีหนังสือรับรอง
ทั้งนี้ยืนยันว่าตลอดการฝึกที่ Fort Schofield ทหารไทยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน เพราะเป็นค่ายปิด
อย่างไรก็ตามพลเอกอภิรัชต์ ได้สั่งการให้กำลังพลที่ไปฝึกในช่วง 14 วันนั้นได้เขียน report บทเรียนจากการฝึกให้คุยกันในวงโดยใช้ระบบปีที่สี่ที่สือว่าเป็น After action review( AAR )
ผบ.มบ.เป็นห่วงช่วงที่กักตัว 14 วัน จะอยู่กันอย่างไร กลัวไม่มีอะไรทำ จึงได้ฝากการบ้านให้ทหารที่กักตัว 14วัน จัดทำรายงานถอดบทเรียนการฝึกกันในCCTV เพื่อเป็นแผนบทเรียนของกองทัพในการฝึก
ส่วนทหารไทย จะมีหนีเที่ยวเหมือนทหารอียิปต์ ที่เคยมาพักที่ระยองหรือไม่นั้น พลเอก ณฐพนธ์
ยืนยันว่า ทหารไทยอยู่ในระเบียบวินัย ไม่มีการหนีเที่ยวแน่นอน อีกทั้งอยู่โรงแรม อาคารสูง ถ้าจะหนีก็ต้องโรยตัวลงมาเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีอยู่แล้ว
ด้านพลโท ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่าในส่วนการปฏิบัติ ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา โดยความรับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ 14มีการปฏิบัติ โดยมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มเติม จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี ในการสนับสนุนงานด้านรักษาความปลอดภัย และการรักษาพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ศบค. ประจำ ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine
กรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่ากำลังพลทั้งหมดจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเจ้าหน้าจากกรมควบคุมโรค จำนวน 2ครั้ง ในวันที่ 25ก.ค. และ 3ส.ค. มีการวัดไข้และรายงานทุกวัน และมีนักจิตเวช-นักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา
ทั้งนี้มีการประเมินความเครียด ออนไลน. ให้คำปรึกษา โทรศัพท์ในเรื่อง โรคประจำตัว และสภาพทางจิตใจ
อย่างไรก็ตามกำลังพลทุกนายจะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำอย่างเคร่งครัด ห้ามออกนอกห้องพัก และมีกล้อง CCTV เฝ้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง งดการเยี่ยมญาติ และไม่ให้มีการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติดังกล่าวโดยเด็ดขาด และเมื่อครบกำหนดการกักตัวในวันที่ 6 ส.ค.63แล้ว กำลังพลทุกนายจะได้รับหนังสือรับรอง และกองทัพบกจะจัดโดยสารนำกำลังพลส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป
พร้อมย้ำว่าทหารที่ฮาวายอาจจะตรวจเชื้อจากสหรัฐมาแล้วเมื่อกลับไทยก็ต้องตรวจเช็คอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนตามที่ศบค.จะบอกว่าการ์ดย่าตก และขอยืนยันว่าการฝึกของทหารที่ฮาวายไม่ได้ออกนอกที่ค่ายเลยเนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด ไม่ได้ไปเที่ยวไหน เมื่อลงเครื่องที่ประเทศไทย ก็ตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิและเข้าโรงแรมกักกันโรคที่ State Quarantine ทันที พร้อมยืนยันไม่ออกมาเที่ยวเล่นแน่นอนเพราะทหารมีวินัย ขอให้ประชาชนมั่นใจได้
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก อาจจะ เดินทางไปรับทหารที่กลับมาจากฮาวายในวันพรุ่งนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
#LightningForge2020″
ภาพและข้อมูล Wassana Nanuam
