ตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยื่นหนังสือต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.ที่รัฐสภา เพื่อคัดค้านรายงานที่ สปท. เตรียมพิจารณาและเสนอไปให้รัฐบาล แก้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ โดยให้ยุบวาระการดำรงตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้เหลือ 5 ปี จากเดิมให้มีวาระการดำรงตำแหน่งจนอายุครบ 60 ปี และยังให้มีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีด้วย
นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย นำคณะกำนันผู้ใหญ่บ้านยื่นหนังสือถึง ร้อยเอกทินพันธุ์ นาคาตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ผ่านกลุ่มงานประสานงานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดค้านรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.ที่เสนอลดวาระดำรงตำแหน่งกำนันเหลือ 5 ปี และให้ประเมินผลการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม สปท.ในวันนี้ โดยไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการลดวาระการดำรงตำแหน่งเหลือ 5 ปี ส่วนเรื่องการประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีนั้น ทางกรมการปกครอง มีการประเมินผลงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปี และประชาชนสามารถเข้าชื่อถอดถอนได้อยู่แล้ว จึงเห็นว่า ข้อเสนอดังกล่าวทำให้การทำงานของกำนันผู้ใหญ่บ้านมีความอ่อนแอ และจะยึดโยงกับฝ่ายการเมือง เพราะเป็นระบบเลือกตั้งประเภทเดียวกัน อีกทั้งกำนัน มีหน้าที่พิเศษในการปราบปรามยาเสพติดจำเป็นต้องมีระยะเวลาทำหน้าที่
ขณะที่การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. พิจารณารายงานของขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. เรื่อง “ข้อเสนอประเด็นสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่ตำแหน่งกำนัน วาระการดำรงตำแหน่ง กำนัน และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่” เพื่อปฏิรูปเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งของบุคคลที่มาจากการเลือกตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ คือ ตำแหน่งกำนัน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
เนื่องจากพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ได้กำหนดเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งและวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่บ้านมาจากการเลือกโดยราษฎรในหมู่บ้าน และให้กำนันมาจากการคัดเลือกกันเองของผู้ใหญ่บ้านในตำบลน้ันๆ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งจนอายุครบ 60 ปี พบว่าทำให้มีแนวโน้มของการผูกขาดการดำรงตำแหน่งกำนันที่เลือกกันเองครั้งเดียวและอยู่จนถึงอายุ 60 ปี ทำให้เกิดการสั่งสมอิทธิพลในพื้นที่ และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน ที่ให้มีการประเมินทุก 4 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป คณะกรรมาธิการ เห็นว่าควรมีการปฏิรูปตามกฎหมายนี้ โดยกำหนดให้กำนั้นมาจากการเลือกโดยตรงของประชาชน และมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสทบทวนและประเมินผลการปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริง และให้มีการผลการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี และให้ภาคประชาสังคมได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่และเป็นกรรมการประเมินผลด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านสามารถแสดงความเห็นในได้ตามกรอบของกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยหากจะมีการปลุกระดมหรือจัดการชุมนุม และมีรายงานว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านถูกกำชับจากฝ่ายปกครองห้ามเคลื่อนไหวในฐานะที่เป็นผู้นำท้องถิ่นไม่ควรที่จะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี