พ่อน้ำตาตก ตร.จับกุมโจ๋วัย 16 ปี แทงเพื่อนเสียชีวิต อ้าง ป้องกันตัวหลังถูกคู่อริใช้ปืนปากกาจี้หัวและชักมีดเข้ามาทำร้าย
จากกรณีช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย. 67 เวลา ประมาณ 06.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.หญิงชนิดาภา ทิพย์รักษา รองสว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุเหตุ ทะเลาะวิวาทย์มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ก่อนจะไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลกรุงไทย แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นบาดแผลตัดขั้วหัวใจ ทราบชื่อคือ นายศรายุทธ อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.ปี2 เทคโนโลยีไทย-เยอรมัน สระบุรี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถโหลดสินค้า ภายในเมืองทองธานี พบกองเลือดอยู่บริเวณใกล้เคียงลานจอดรถจยย. จึงประสานเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด จนกระทั่งทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ ว่าหลังก่อเหตุได้กลับไปพักอาศัยอยู่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านตำบลบางพลับ ม.5 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงทำการเข้าตรวจสอบจนพบตัวผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพจึงนำตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมนำของกลางรถจยย.ชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. 67 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีร.ต.ท.หญิงชนิดาภา ทิพย์รักษา รองสว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุ นายนนท์ อายุ 16 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยขณะตำรวจนำตัวนายนนท์เข้าห้องขัง ก็ได้ร้องไห้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ นายเอกชัย อายุ 40 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุที่เดินทางมา ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และติดตามดูลูกชายได้ร้องไห้ตลอดเวลา
ด้านนายปอนด์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของผู้ตาย (นายโอ) และคนแทง (นายนนท์) เผยว่าตนรู้จักทั้งสองฝ่าย โดยฉนวนเหตุมาจากต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากัน เพื่อนผู้ตายกับมือแทงเคยมีปัญหากันยืนยันไม่ใช่เรื่องชู้สาว ตอนเกิดเหตุ ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ก็มีปากเสียงกัน ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธ จนกระทั่ง นายโอพลาดท่า ถูกนายนนท์แทงเข้าบริเวณหน้าอกถูกจุดสำคัญ ตอนนั้นตน รีบพานายโอขึ้นรถจักรยานยนต์ไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขณะที่พาไปส่งที่โรงพยาบาลนายโอก็เริ่มไม่มีสติ มีเลือดออกมาก จนถึงโรงพยาบาล นายโอก็กระอักเลือด จนมาเสียชีวิตช่วงเช้า
นายปอนด์ บอกเพิ่มอีกว่า โดยผู้ตายเองก็เป็นเด็กขยัน ทำงานพูดจาดีในฐานะที่ตนเป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน มองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เป็นความคึกคะนองของทั้งสองฝ่าย เสียดายที่ต้องมาจบชีวิตง่าย ๆ
นายแม็ก (เสื้อขาว) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ย.67 เวลาประมาณ 21.00 น.ตนได้ทำงานเป็นพนักงานรายวันกับเพื่อนได้ไปทำงานตามปกติ โดยมีตน นายนนท์ผู้ก่อเหตุ และรุ่นน้องอีก 1 คน ทำงานที่เมืองทอง ขณะเข้างานตอนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าปรากฏว่าได้เจอกลุ่มคู่อริเก่า ได้มาทำงานที่เดียวกัน โดยตนเจอกับทาง นายป๊อด ได้มาพูดจาหาเรื่องยั่วยุตนในห้องแต่งตัว ตนก็เก็บอาการไม่ได้โวยวายหรือตอบโต้อะไร จากนั้นนายป๊อด ก็ได้ไปมีปากเสียงกับนายนนท์ระหว่างทำงานพูดจาคล้ายจะหาเรื่องอยู่ตลอด
หลังจากนั้นขณะเลิกงานเวลาประมาณ 06.00 น. ทางกลุ่มคู่อริได้เดินมาประมาณ 3 คน คนหนึ่งชื่อ ทีเจ ได้เอาปืนปากกามาเจาะหัวนนท์เพื่อนตน จากนั้นทางด้าน นายป๊อด ก็ได้เดินเข้ามาชักมีด ทางนนท์ก็ได้ชักมีดตอบโต้เช่นกัน โดยทางนนท์เพื่อนตนได้วิ่งไล่นายป๊อดได้เสียหลักล้มลง แต่ทางนนท์ก็ยับยั้งใจไม่ได้ก่อเหตุใช้มีดฟัน แต่ทางด้านนายโอผู้เสียชีวิต ได้วิ่งเข้ามาหยิบมีดของนายป๊อดดที่เสียหลักล้ม เข้ามาฟันนายนนท์ ด้วยสัญชาตญาณนายนนจึงป้องกันตัวแทงสวนไปทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนตัวของตนแล้วไม่รู้จักกับฝั่งผู้เสียชีวิต
ส่วนทางด้าน นายเอกชัย พ่อผู้ก่อเหตุ อายุ 40 ปี เล่าว่า หลังเกิดเหตุ ลูกชายได้โทรมาบอกว่าได้ไปแทงคู่อริ โดนลูกชายบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำ แต่ฝั่งคู่อริ จะแทงก่อนจึงต้องป้องกันตัว และที่ผ่านมา ถูกฝั่งอริกลั่นแกล้งพูดจาไม่ดีใส่มาตลอด นายเอกชัยจึงบอกกับลูกชายว่า ให้รออยู่ที่บ้าน ห้ามไปไหน เดี๋ยวจะพาไปสถานีตำรวจ เมื่อมาถึงที่สถานีตำรวจได้ทราบภายหลังว่าคู่อริเสียชีวิตแล้ว ตนและลูกชาย เสียใจมาก โดยเฉพาะลูกชายอยู่ในอาการตกใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งนายเอกชัยก็บอกว่า ก็ต้องยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทำให้เขาเสียชีวิต ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และฝากขอโทษไปยังฝั่งผู้ตายด้วย ซึ่งตนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว
ต่อมากลุ่มเพื่อนผู้ก่อเหตุ ก็ได้เดินทางมา ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบางส่วนมาเยี่ยมนายนนท์ แต่ละคน ก็ร้องไห้เสียใจ พอเห็นเพื่อน เข้าห้องขัง โดยได้เผยว่าจริง ๆ แล้วนายนนท์ ไม่ได้มีนิสัยอันธพาล แต่เชื่อว่าน่าจะถึงที่สุดแล้ว เพราะถูกคู่อริถากถางมาตลอด หลังเกิดเหตุนายนนท์ได้ ส่งข้อความมาหาตน โดยบอกตลอดว่ากังวลและกลัวไม่ได้ตั้งใจทำให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้กลุ่มเพื่อนๆ รู้สึกเข็ดหลาบเช่นกัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการทำประวัติกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่าย ไว้เป็นหลักฐาน
