หนุ่มคลั่งยา! ซิ่งรถอีแต๊ก หลบหนีตร. หมดสติระหว่างคุบควมตัว

จากกรณีที่ชาวบ้าน ตำรวจสายตรวจปทุมวัน เข้าพยายามช่วยกันระงับเหตุ ชายคนหนึ่งมีอาการคล้ายคนเมาสุราขาดสติ พยายามขับรถทางการเกษตรสี่ล้อ หรือ “อีแต็ก” หลบหนีตำรวจ หลังขับรถชนรถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ปทุมวัน และหัวหมาก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะเข้าควบคุมตัวชายคนดังกล่าวมีอาการหมดสติ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล การเสียชีวิตจึงกลายเป็นประเด็นข้อสงสัย ว่า เกิดจากการถูกรุมประชาทัณฑ์หรือไม่

นี่เป็นภาพวินาที ที่กู้ภัยและหน่วยกู้ชีพศูนย์เอราวัณ เร่งนำเครื่องช่วยปั้มหัวใจ ให้การช่วยเหลือนายบัญชา สมิงแก้ว อายุ 45 ปี บริเวณรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง มีอาการหมดสติ และไม่มีชีพจร

โดยรายงานเหตุของตำรวจระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงเวลา 00.10 นใ ของวันที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจสายตรวจ สน.ปทุมวัน นายหนึ่ง ได้พบเห็นเหตุซึ่งหน้านายบัญชา มีอาการคล้ายคนเมาสุราได้ขับรถหวาดเสียวและเฉี่ยวชนรถยนต์ของประชาชนจนได้รับความเสียหาย จึงพยายามเข้าระงับเหตุโดยใช้อาวุธปืนยิงสกัดไปที่ยางล้อรถดังกล่าว พร้อมกับมีประชาชนจำนวนหนึ่งช่วยเข้าระงับเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารประจำตัว แต่พบยาเสพติดในกระเป๋าเป็นยาบ้า 6 เม็ด และไอซ์ 1 ถุง พร้อมอุปกรณ์การเสพยา แต่ขณะควบคุมตัวชายคนดังกล่าวหมดสติและเสียชีวิตขณะส่งโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครอบครัวผู้ก่อเหตุจึงสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิต

อาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะเข้าช่วยเหลือไม่พบว่าผู้ก่อเหตุมีร่องรอยบาดแผลการถูกรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งขณะถูกตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุมีอาการน้ำลายฟูมปาก และหอบก่อนที่จะหมดสติ จึงได้พยายามนำเครื่องช่วยปั๊มหายใจเข้าช่วยชีวิต

พันตำรวจเอกพรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของรถการเกษตรดังกล่าว เพื่อมาหาญาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไม่ได้รับรายงานว่ามีการลงประชาทัณฑ์แต่อย่างใด โดยตำรวจที่เข้าควบคุมตัวในคืนวันที่เกิดเหตุ ให้การว่าเข้าควบคุมตัวตามขั้นตอน ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบถามพยานที่เกิดเหตุรวมถึงผลชันสูตรว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร แต่เบื้องต้นพบยาเสพติดภายในกระเป๋าของผู้เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทราบว่านายบัญชาได้ขับรถดังกล่าว มาจากบ้านพักในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมาหาภรรยาและลูกที่พักอยู่ในพื้นที่เขตหัวหมาก แต่ถูกไล่สกัดจับ ซึ่งเบื้องต้น ทางครอบครัวได้เข้าไปรับศพที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม แล้วในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งผลของการชันสูตรไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสาเหตุการเสียชีวิต จึงอยากให้ตำรวจออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น