ศาลให้ประกัน ‘ตะวัน ทะลุวัง’ ผู้ต้องขังคดี ม.116 บีบแตรใส่ขบวณเสด็จ แลกเงื่อนไข ให้ใส่กำไล EM ทนายคาด ไม่น่าจะได้ปล่อยตัววันนี้

วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ สองผู้ต้องหาคดีมาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567

ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้มีการระบุข้อความว่า “ด่วน! ศาลอาญาให้ประกัน ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ในคดี ม.116 แล้ว หลังถูกคุมขังมาตั้งแต่ชั้นฝากขังจนคดีถูกสั่งฟ้องเป็นระยะเวลานาน 104 วัน พร้อมกับอดอาหารประท้วงก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

โดยปัจจุบันตะวันถูกควบคุมตัวอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พร้อมกับ แฟรงค์ ณัฐนนท์ เพื่อนร่วมคดีเดียวกัน
โดยวันนี้ศาลให้ประกันตัวตะวัน
ด้วยเงื่อนไขให้ใส่กำไล EM ส่วนแฟรงค์ทนายความจะยื่นประกันต่อไป

สำหรับการ ปล่อยตัวตะวัน ในวันนี้ ทนายความกำลังตรวจสอบว่านอกจากนี้คดีนี้ ตะวันยังมีหมายขังในคดีอื่นอยู่อีกหรือไม่ หากมีจะยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อไป หรือหากไม่มีคดีใดเหลืออยู่แล้วตะวันก็จะได้รับการปล่อยตัววันนี้ทันที”

แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการรายงานออกมาอีกด้านว่า หลังจากศาลได้อนุญาตให้ประกันตะวันแล้ววันนี้ ทนายยังไม่ได้ส่วนรายละเอียด แต่คาดว่ายังไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ เนื่องจากตะวันยังมีร่างกายอ่อนแอ ป่วยอยู่ และต้องติดกำไลอีเอ็มอีกด้วย

ตะวัน-ทานตะวัน-min

ย้อนอ่านคดีที่ทำให้ตะวันและแฟรงค์ถูกคุมขังในครั้งนี้

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดี “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แฟรงค์” ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ถูกคุมขังในคดีที่สืบเนื่องจากการถูกออกหมายจับในคดีมาตรา 116 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สืบเนื่องมาจากถูกกล่าวหาว่า บีบแตรใส่ขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567

ในคดีนี้ ตะวันกับแฟรงค์ได้ถูกตำรวจยื่นขอฝากขังจนครบ 4 ผัด และศาลไม่เคยอนุญาตให้ทั้งสองคนได้รับการประกันตัว แม้สถานการณ์ประท้วงอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง ของตะวันกับแฟรงค์จะอยู่ในระดับวิกฤตที่น่าเป็นห่วง

สำหรับวันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นวันครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้าย ที่กฎหมายให้อำนาจไว้ไม่เกิน 48 วัน โดยอัยการใช้เวลาพิจารณาสำนวนที่ส่งจากตำรวจภายในไม่กี่วัน ก่อนมีคำสั่งฟ้องคดี

ณัฐพงษ์ วายุพัฒน์ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้เรียงฟ้องคดีตะวันและแฟรงค์ แยกเป็น 4 กระทง ใน 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3), ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตรา 397, ข้อหาเรื่องการใช้เสียงแตรรถยาวหรือซ้ำเกินควร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 14, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 368 จากกรณีไม่พิมพ์ลายมือในระหว่างรับทราบข้อกล่าวหา เฉพาะณัฐนนท์ยังถูกกล่าวหาในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 136 อีกหนึ่งข้อหาด้วย

บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 ขณะที่มีการอารักขาขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ อยู่บนทางพิเศษศรีรัช มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่ทางลงทางด่วนพหลโยธิน 1 ตะวันและแฟรงค์ได้ร่วมกันบีบแตรรถยนต์ตลอดเวลาเสียงดังยาว 1 – 2 นาที และขับรถยนต์แทรกคันอื่น ๆ ที่หยุดรอขบวนเสด็จ เพื่อขับแทรกเข้าไปในเส้นทางของขบวนเสด็จที่กำลังเคลื่อนผ่านบริเวณทางต่างระดับมักกะสันที่รถยนต์ของผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่

ต่อมาเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว จำเลยทั้งสองคนได้ขับรถไล่ติดตามขบวนเสด็จไปในระยะกระชั้นชิดและบีบแตรลากยาวโดยไม่มีเหตุอันควร ตลอดจนถึงบริเวณทางลงของทางด่วนพหลโยธิน 1 เป็นระยะประมาณ 800 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อารักขาได้สกัดกั้นจำเลยทั้งสองคนไว้ได้

คดีตะวัน-116-min

นอกจากนี้ ในขณะเกิดเหตุ อัยการได้บรรยายฟ้องอีกว่า ส.ต.อ.นพรัตน์ อินทิแสน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อารักขาขบวนเสด็จ ได้เข้าสกัดกั้นรถยนต์ของจำเลยทั้งสองให้หยุดการกระทำ โดยกล่าวหาว่าแฟรงค์ได้ดูถูกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวรู้สึกอับอาย และถูกลดคุณค่าในขณะที่กำลังปฏิบัติตามหน้าที่ อันเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะที่

ในวันที่ 7 ก.พ. 2567 ตะวันได้ทำการโพสต์ภาพจากกล้องหน้ารถที่ทั้งสองขับในวันเกิดเหตุ ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวแสดงความเห็นว่า ‘นำคลิปหลักฐานมาให้ชมค่ะ ว่ามีการปิดถนนจริง ๆ เราเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องขบวนเสด็จไปแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใหญ่คนไหนตอบ ซ้ำยังยัดคดี ม.112 และถอนประกันจนเข้าคุก นี่คือคำตอบที่ผู้ใหญ่ในประเทศนี้ให้กับเรา’

วันนั้น เราได้ขับรถไปทำธุระส่วนตัว เจอขบวนเสด็จพอดีและปิดถนนเหมือนเดิม เราไม่ได้รอและขับออกไปเลย เพราะทุกคนก็รีบเหมือนกัน เราขับรถไปตามเส้นทางที่จะต้องไปทำธุระ ไม่ได้จะเร่งไปเพื่อหาขบวนเสด็จ และมันก็มีแต่คำถามในหัวว่า ทำไมถึงมีรถคันไหนไปได้สะดวกกว่ารถของประชาชน?’

อัยการระบุพฤติการณ์ของ “ตะวัน – แฟรงค์” เป็นการท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติฯ และอาจสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน

เหตุทั้งหมด อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองคนที่ต่อเนื่องกัน เป็นการสร้างความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อันมิใช่การกระทำมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่การติชมโดยสุจริต

และเนื้อหาการโพสต์ของจำเลยที่ 1 หรือตะวัน เป็นการอวดอ้างพฤติกรรมของจำเลยทั้งสองที่ขับรถแทรกรถยนต์ของประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อจะพยายามขับแซงไปข้างหน้าให้ใกล้กับขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ ทั้งยังมีการบีบแตรส่งเสียงดังแสดงความก้าวร้าว เป็นการต่อต้าน ท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติยศ

ทั้งทำให้ประชาชนที่ติดตามเฟซบุ๊กของตะวัน เข้าใจว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มโซเชียลมีเดีย อันเป็นการกระทำที่อาจสร้างความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน และเป็นภัยอันตรายต่อความปลอดภัยทางสาธารณะ

ทั้งนี้ ท้ายฟ้อง อัยการระบุว่า “หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล” โดยไม่ได้คัดค้านการประกันตัวด้วย

อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่าแม้บรรยายฟ้องของโจทก์จะกล่าวถึงพฤติกรรมของตะวันกับแฟรงค์ว่า อาจนำไปสู่ความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 นั้น ก็ยังไม่พบว่าจะมีการนำเสนอข่าว หรือผู้ใดที่กระทำการสร้างความวุ่นวายตามฟ้อง

นอกจากนี้ ตามบันทึกจับกุม ยังได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ตะวันที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ได้เปิดกระจกรถต่อว่าตำรวจที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวว่า เดือดร้อนภาษีประชาชน และเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว ก็ได้เปิดการจราจรให้รถยนต์จากทางร่วมฯ วิ่งไปได้ตามปกติ โดยเห็นว่ารถของผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติการณ์ขับรถเร็ว ซึ่งตำรวจลงความเห็นว่าอาจเป็นการอันตรายต่อขบวนเสด็จ จึงได้แจ้งทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่รายอื่นที่ปฏิบัติงานถวายความปลอดภัยทราบถึงพฤติกรรมของรถยนต์คันดังกล่าว

จากนั้นรถของตะวันก็ได้ขับเข้าประชิดกับรถปิดท้ายขบวนเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่รถปิดท้ายขบวนได้สกัดเอาไว้ได้ จึงทำให้ไม่สามารถแทรกเข้าไปในขบวนเสด็จได้

ต่อมาในวันที่ 2 เม.ย. 2567 ศาลอาญานัดได้นัดให้มีการถามคำให้การทั้งสองคน โดยเบิกตัวแฟรงค์มาที่ศาลอาญา แต่ไม่สามารถติดต่อตะวันได้ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า เนื่องจากในขณะนี้ตะวันพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับโรงพยาบาลดังกล่าวได้ จึงไม่สามารถดำเนินการเบิกตัวมาตามนัดสอบคำให้การในวันนี้ได้ ศาลจึงให้เลื่อนนัดถามคำให้การไปเป็นวันที่ 2 พ.ค. 2567

ที่มา : TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

https://x.com/TLHR2014/status/1795010725712441373

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

คลิป เบียร์ The Voice อาบน้ำ คลิปหลุดที่เป็นกระแส อาจเกิดจากโพสต์นี้

ส่องด่วน คลิป เบียร์ The Voice อาบน้ำ คลิปหลุด ในกระแส หลัง เบียร์ เดอะวอยซ์ ไลฟ์โชว์อาบน้ำ ให้เห็นเรือนร่าง อาจเกิดจากโพสต์ก่อนหน้านี้

เปิดวิธีซ่อนตัว บิดมือถือ โจรนินจา ไอ้นี่มันแสบของจริงซุกใต้เตียงหนีตร.

สืบนครบาลปิดเกม โจรนินจา  วิ่งราวทรัพย์ 13 โรงพักไม่เคยโดนจับ ล่าสุดแอบซุกใต้เตียงตบตาตำรวจ แต่ก็ไม่รอดสายตา

ส่องคลิปหลุด จับโป๊ะเทวดา โอนเงินเข้าบัญชี 6 ราศีเตรียมรับทรัพย์ รับเงินเพิ่มแบบไม่ทันตั้งตัว

ส่องคลิปหลุด จับโป๊ะเทวดา โอนเงินเข้าบัญชี 6 ราศีเตรียมรับทรัพย์ รับเงินเพิ่มแบบไม่ทันตั้งตัว หลุดแล้ว โชคลาภบางครั้งก็ไม่ต้องวิ่งหา เพราะดวงบางราศีช่ […]

7 ราศี โชคพุ่งเข้าหา ตามที่หมอไวท์ ทำนายชะตา พระราหูย้าย รับโชคใหญ่

7 ราศี โชคพุ่งเข้าหา ตามที่หมอไวท์ ทำนายชะตา พระราหูย้าย รับโชคใหญ่ กับดาวย้ายใหญ่ หมอไวท์ หรืออาจารย์ไวท์ หมอดูโอปป้า ทำนายไว้ในเพจ FB White Jewel ถึ […]

ราหูพัวพันดวง หมอช้าง ทำนาย 4 ราศี มีส่วนเกี่ยวกับดาวราหูย้ายใหญ่

ราหูพัวพันดวง หมอช้าง ทำนาย 4 ราศี มีส่วนเกี่ยวกับดาวราหูย้ายใหญ่ พฤษภาคม 2568 ล่าสุดหมอช้าง ได้ทำนายในเพจ FB หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ถึงการย้ายครั้งใหญ่ […]

คลิปหลุด เบียร์ เดอะวอยซ์ Live อาบน้ำ การใช้ร่างกายเป็น Social Capital

คลิปหลุด เบียร์ เดอะวอยซ์ Live อาบน้ำ ดร.ตฤณห์ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา วิเคราะห์ ชี้ อาจเป็นบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า