ชาวกรุงเก่าโวย หลังมีนายทุน แย่งที่ดินวัด!! ทนายดังยื่นเพิกถอนรูปแผนที่ ร.ว.9 ต่อที่ดินอยุธยา ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นายทุนยังดื้อประกาศขายที่ดินที่ยังมีข้อพิพาทบุกรุกที่วัดป้อมรามัญ และ ที่สาธารณะ 29 ล้าน
จากกรณีข้อพิพาทนายทุน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เคยมารังวัดที่ ร.ว. 9 แล้วรุกล้ำที่สาธารณะ จนเลยข้ามมาปักมุดยังที่สามเหลี่ยมหน้าวัดป้อมรามัญ ที่เป็นที่ดิน ( สค.1) เพื่อดำเนินการออกโฉนดทับที่ของวัดป้อมรามัญ หมู่ 4 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ใช้เป็นสิ่งปลูกสร้างศาลาเอนกประสงค์ เพื่อให้ชาวบ้านและหน่วยงานราชการเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน


จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านไม่พอใจออกมาประท้วงคัดค้านการรังวัดที่โดยมิชอบว่าเอื้อประโยชน์แก่นายทุน แล้วยังแจ้งว่าทางวัดบุกรุกที่ของนายทุน จนเกิดข้อพิพาท ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม ฟ้องร้อง ให้มีการรังวัดที่ดินใหม่หลายครั้ง จนทางวัดได้มอบหมายให้นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง เป็นตัวแทนในการยื่นฟ้อง ดำเนินคดีอาญามาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน และนายทุน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จังหวัดสระบุรี มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ในการรังวัดที่ดินรุกล้ำที่วัดและที่สาธารณะเอื้อประโยชน์นายทุน ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จังหวัดสระบุรี ได้พิเคราะห์ไต่ส่วน พยานหลายปากว่าคดีดังกล่าวมีมูลความจริงว่าเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินอยุธยา และ นายทุน ได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของวัด 1 ไร่ 1 งานเศษ แล้วทำการังวัดจัดทำเอกสาร ร.ว. 25 จ ตามเอกสารหมาย จ.18 และเอกสานขึ้นรูปแผนที่ ร.ว. 9 ตามเอกสารหมาย จ. 9 ไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง ซึ่งเกิดขึ้นจากการยื่นคำร้องขอรังวัด และชี้นำผู้อื่นให้ร่วมมือด้วย โดยใช้รังวัดแบบคำนวณเนื้อที่ตาม ร.ว. 25 จ และ การขึ้นรูปแผนที่ ร.ว .9 ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ที่กำหนดไว้ในเอกสารระวางที่ดินและตามรูปแบบที่ท้ายโฉนดที่ดินของจำเลยออกทับที่ดินของวัด ที่ครอบครองอยู่ ทำให้วัดได้รับความเสียหาย จึงตัดสินประทับรับฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ประพฤติไม่ชอบ รับไว้พิจารณา ดังนั้นในวันที่ 14 ธันวาคม ปี 63 ทางเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินและนายทุนในฐานะประชาชน ที่ทางวัดฟ้องร้องไป

แต่ทางนายทุนยังไม่มีการหยุดนิ่งยังคงลงโฆษณาโพสต์ขายที่ดินที่ยังเป็นข้อพิพาท ซึ่งเรื่องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จังหวัดสระบุรี ในการดำเนินคดีอาญามาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน และนายทุน ที่ร่วมมือกันแสดงหลักฐานแผนที่ ออกหนังสือรังวัดที่ดิน ร.ว.9 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 4,272 ตร.ว. (10-2-72 ไร่) หน้ากว้าง 82 x 253 เมตร ในราคา 29,000,000 บาท โดยอ้างสรรคุณว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินเปล่าทำเลดี เหมาะแก่การลงทุน ทำบ้านจัดสรร รีสอร์ท หรือเกษตรกรรม ที่ดินอยู่ในแหล่งชุมชน น้ำไฟเข้าถึง ทำเลดี ที่ดินอยู่ตรงข้ามโรงเรียนวัดป้อมรามัญ ห่างจากพระที่นั่งเพนียดเพียง 1.5 กิโลเมตร ใกล้องค์การบริหารส่วนตำบลลุมพลี องค์การบริหารส่วนตำบลสวนพริก ตลาดริมคลองสองวัฒนธรรม โบราณสถานวัดพระยาแมน ตลาดเจ้าพรหม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ โรงเรียนอยุธยานุสรณ์ การเดินทางสะดวก เชื่อมต่อหลายเส้นทาง
เมื่อวันที่6 พ.ย.63 ที่ผ่านมา นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง ตัวแทนวัดป้อมรามัญ เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือเพื่อให้กับทางสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา “เพื่อให้ดำเนินการมีคำส่งเพิกถอนรูปแผนที่ (ร.ว.9) ที่มิชอบด้วยกฏหมายนั้นสีย ทั้งนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันรับหนังสือ หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวท่านยังเพิกเฉย ข้าพเจ้ามีความเสียใจที่จำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับท่านตามกฎหมายต่อไป”

ส่วนพื้นที่สาธารณะรอบวัดป้อมรามัญ ก็ได้เคยยื่นหนังสือให้ทำการรังวัดตรวจสอบพื้นสาธารณะประโยชน์ กับ ทางหน่วยงานราชการ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ อบต.สวนพริก ไปแล้ว และ จะทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการอีกครั้ง หากยังมีการปล่อยปละละเลยและหรือมีเจตนาไม่ดำเนินการเอื้อประโยชน์ต่อผู้หนึ่งผู้ใด ก็จะยื่นดำเนินคดีอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต่อไป
เดิมพื้นที่ของวัดป้อมรามัญมีเนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 12 วา แต่หลังจากถนนทางหลวงชนบท อย.2003 ตัดผ่าน เนื้อที่ได้หายไปเหลือแค่ 12 ไร่ 3 งาน 80 วา โดยที่ดินบางส่วนที่หายไปเหลือเป็นที่สามเหลี่ยมหน้าวัด ที่ใช้เป็นสิ่งปลูกสร้างศาลาเอนกประสงค์ เพื่อให้ชาวบ้านและหน่วยงานราชการเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ช่องทางติดต่อโฆษณา Bright TV โทร.086-322-6363