“สามารถ” เดือดซัด! “ไอซ์ รักชนก” ดึงเวลาขอ เลื่อนฟังคำพิพากษาคดี 112 ลุ้นพ้นเก้าอี้ สส. – ลั่น! ไม่ได้ทำชั่ว จะกลัวอะไร?
หลังจากที่ ไอซ์ รักชนก หรือ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคก้าวไกล นับถอยหลัง 13 วัน ฟังคำพิพากษา เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลายคนคงทราบข่าวเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องที่ ไอซ์ รักชนก ฟ้องว่ากฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ ขัดรัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ศาลอาญารัชดา ก็จะอ่านคำพิพากษาคดี 112 ของไอซ์ คดีหมายเลขดำที่ อ 683/2565 โจทย์ที่ยื่นฟ้องมาตรา 112 พรบ.คอมพิวเตอร์
ซึ่งทางฟากฝั่งของไอซ์ รักชนก นั้น ติดภารกิจ จึงทำหนังสือเพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากติดประชุมาสภา ซึ่งต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะให้เลื่อนหรือไม่
วันที่ 3 ธ.ค. 2566 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ รักชนก สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ลุ้นพ้นเก้าอี้ สส.หรือไม่? โดยนายสามารถ โพสต์ Facebook สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า “ได้ทำหนังสือเพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษาคดี 112” เนื่องจากติดประชุมสภาฯว่า เวลาทำไม่คิด พอเจอคดี ก็เลื่อนๆๆๆๆ ดึงเวลา ดึงคดี ปกติคนไม่ทำผิด เขาไม่กลัวความผิด ดั่งคำโบราณที่ว่า “ถ้าคิดว่าไม่ได้ทำชั่ว จะกลัวอะไร
การที่ ไอซ์ รักชนก ทำหนังสือขอให้ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา ไม่งั้นอาจหลุดได้ เพราะถ้าศาลตัดสินผิดจริง ถ้าถูกจำคุก แต่ประกันตัวได้ก็สู้กันต่อที่ ศาลอุทธรณ์ ฎีกาได้เป็น สส. ต่อไป
ยกเว้น ว่า
ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก แล้วไม่ให้ประกันตัว ส่งเข้าเรือนจำแค่วันเดียวก็พ้นสมาชิกภาพ สส.จึงจะเห็นว่าไอซ์ รัชนก ใช้สิทธิของตนเองเต็มที่ บางที่อาจเกินส่วนไปเสียด้วย แต่ไม่เคยคิดว่าที่ตัวเองทำไปนั้นคนอื่น เขาเดือดร้อนมากแค่ไหน จึงไม่แปลกใจ พอทำผิดแล้ว ก็จะมาขอยกเลิกความผิด
“ปากบอกอ้างว่า ปรองดอง ถ้าคนทำผิด แล้วไม่ต้องรับโทษ จะมีกฏหมายไว้ทำไม ดังนั้น การที่จะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาตรา 112 ก็เพื่อทำกิโยตินกฏหมายนี้ให้หายไปจากประเทศไทย ผมไม่กล้าแม้แต่เพียงจะคิดว่า ถ้าไม่มีกฏหมายมาตรา112 ของประมวลกฏหมายอาญา คนกลุ่มนี้จะล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์ไปถึงขั้นไหนอย่างไร เพราะขนาดมีกฏหมาย ยังไม่เกรงกลัว ด้อยค่า ย่ำยีหัวใจคนไทยได้ทุกวัน ดังนั้นผมฝากพวกเราช่วยกันปกป้อง 3 สถาบันหลักของชาติไทยไว้ ให้อยู่ไปชั่วลูกสืบหลานตลอดไป” นายสามารถ กล่าว
