ดราม่าข้ามรั้ว! อดีตทหารบก ฉุนจัด คว้าปืนลั่นไกใส่เพื่อนบ้าน ดับ 1 เจ็บ 1 ก่อนยิงตัวเองตายตาม คาดปัญหาน่าจะมาจาก เรื่องหมาแมว
เมื่อเวลา 07.45น.วันที่ 9 กันยายน2567 ร.ต.ท.วสันต์ ศรีนิล รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายเหตุเกิดภายมในหมู่บ้านฉัตรหลวง14 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน. พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ชีพบัวเพ็ชร อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต1
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวมีรั้วรอบขอบชิดบริเวณหน้าบ้านพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อนางเสาวกุล สะสาเดาะห์ อายุ 53ปี เจ้าของธุรกิจตลาดและเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ฝ่ามือขวา 1 นัด หน้าท้อง 2 นัดแก้มซ้าย1นัด กระสุนถูกอวยัวะสำคัญเป็นเหตุให้เสียชีวิต ข้างกันพบผู้ได้รับบาดเจ็บ1ราย เป็นบุตรชายผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายกฤติน นาถวิล อายุ 30 ปี ตำแหน่งนายช่างเขียนแบบสังกัดอบจ.ปทุมธานี ถูกยิงที่ฝ่ามือซ้ายถูกนำตัวส่งร.พ.บางปะกอกรังสิต 2 ส่วนผู้ก่อเหตุคือพันโทจารุชาติ จารุปาณ อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญกองทัพบกซึ่งอยู่บ้านหลังติดกันทางทิศตะวันตก ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตนเองเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุโดยกระสุนยิงเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา ข้างกันพบอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซิกเซาเออร์ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอกเครื่องกระสุน 3 นัด นอกจากนี้บ้านที่เกิดเหตุประตูกระจกหน้าบ้านถูกยิงแตกเกลื่อนพบปลอกกระสุนตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ
สอบสวนเบื้องต้น นายกฤติน นาถวิล อายุ 30 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้การว่า บ้านหลังนี้ตนเองอยู่กับมารดา 2 คน โดยมารดาและเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกันมานานแล้วเรื่องแมว เพราะผู้ก่อเหตุชอบให้อาหารแมวจรแล้วในเข้ามาในบ้านตนเองที่เลี้ยงสุนัขและกัดแมวเสียชีวิตไปแล้วหลายตัว มารดาตนเองสงสารและไม่อยากให้แมวโดนกัดเลยพยายามคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาแต่เพื่อนบ้านไม่แก้และระหงระแหงกันเรื่อยมา กระทั่งเช้าที่ผ่านมาแมวได้เข้ามาอยู่ที่กระโปรงหน้ารถและไม่ยอมออกเพราะตนเองต้องไปทำงาน เลยเกิดความโมโหมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงโดยตอนนั้นตนเองอาบน้ำอยู่บนบ้านได้ยินเสียงปปืนตนเองจึงรีบลงมาด้านก็พบว่ามารดาถูกยิงแน่นิ่งไปแล้ว ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ จะเห็นตนเองยินอยู่หน้าประตูกระจกจึงยิงใส่ทันทีจนกระจกแตกละเอียด กระสุนถูกฝ่ามือซ้ายตนเองจึงวิ่งหลบเข้าบ้าน ก่อนโทรแจ้ง191และได้ยินเสียงปืนอีก1นัดคาดว่าผู้ตายยิงซ้ำมารดาตนเอง ก่อนจะทิ้งระยะไปครู่หนึ่งจะดังเสียงปืนอีกนัดคาดว่าผู้ก่อเหตุยิงตนเองเสียชีวิต ทั้งหมดตนเองได้ยินเสียงปืนดัง 5-6 นัด
ด้าน นางอโนทัย จารุปาน อายุ 63ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ให้การว่า สามีเป็นข้าราชการเกษียณมา 4 ปี ป่วยมาตั้งแต่ ปี 2558 เพราะถูกฝนเหลืองและระเบิดโดยบ้านตนเองอยู่ 2 คน วันหยุดลูกจึงจะมาหาโดยสาเหตุเกิดเมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้ว ทะเลาะกันเรื่องลูกแมวเข้าบ้านเขาโดยเข้าไปวิ่งเล่นบ้านเขาแต่เขาก็ไม่ได้อะไรพูดจาดี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาสามีตนเองให้อาหารแมวและบ้านเพื่อนบ้านได้ด่าแมวโดยบอกว่าด่าในโทรศัพท์ จากนั้นสามีตคนเองก็บอกว่าผมให้อาหารแมวอยู่คุณมาด่าแบบนี้มันไม่ใช่จากนั้นก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะด่ามาว่า “ไอ้เป๋เวรกรรมมึงมีจริงมึงก็อยู่กับตัวของมึง” ก่อนที่สามีตนเองจะบอกว่ามึงปากอย่างนี้จึงได้อยู่ตัวคนเดียว จากนั้นก็ด่ากันใหญ่ก่อนที่สามีจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อหยิบปืนตนเองก็วิ่งตามไปแต่ไม่ทันก่อนที่สามีจะไปยิงเพื่อนบ้านและออกมาที่ถนนใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิต
ทาง เพื่อนบ้านใกล้กัน บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนที่มีอุปนิสัยดีพูดจาดี เวลาป่วยก็จะหายามาให้เป็นเพื่อนบ้านมาหลายปีแล้ว โดยผู้ก่อเหตุก็นับถือตนเองเรียกตนเองว่ายายอ้วนเพื่อนบ้านก็มีไม่กี่หลังก็มักจะคุยกันเรื่อยๆ เปิดประตูบ้านมาเจอกันก็จะทักกัน โดยผู้ก่อเหตุไม่มีอาการป่วยอัธยาศัยดีไม่คิดว่าตจะเกิดเหตุเช่นนี้
ทางด้าน นายสมบูรณ์ สะสาเดาะห์ อายุ 80ปี บิดาของนางเสาวกุล สะสาเดาะห์ คนตาย เปิดเผยว่า ลูกสาวลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า แมวของคนก่อเหตุเข้ามาภายในบ้านก่อนที่สุนัขในบ้านที่เลี้ยงไว้ไปกัดแมวเขาแค่นั้นจากนั้นก็ไม่ได้เล่าอะไรอีก โดยบ้านหลังเกิดเหตุอยู่กัน2คนกับลูกชายโดยมาอยู่ตั้งแต่สร้างโครงการใหม่ๆ
ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ให้กำลังชุดสืบสวนเร่งสอบปากคำพยานบุคคลตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยพบว่าสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
