สลด ! น้องชายติดต่อพี่สาวไม่ได้ สุดท้ายแทบช็อค เจอเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูก เสียชีวิตมาแล้ว 1 ปี ลั่นเจอครั้งสุดท้ายปี 66
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 67 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายวันภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยสามัคคี 50 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวบริเวณภายนอกบ้านพบว่าต้นไม้สูงปกคลุมรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนรถเก๋งภายในบ้านสภาพฝุ่นเกาะหนาไม่ได้ใช้งานนานซึ่งรถทั้ง 2 คันเป็นของผู้เสียชีวิต ภายในตัวบ้านพบโครงกระดูก ตรวจสอบคือ นางพรรณทิพย์ อายุ 76 ปี อดีตครูโรงเรียนสตรีวิทยาเกษียณอายุแล้ว อยู่กลางบ้านท่ามกลางกองสมุดหนังสือ เสื้อผ้าจำนวนมาก สภาพศพแห้งเหลือแต่โครงกระดูก โดยภายในบ้านยังเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ ทางแพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ปี
นายกนก อายุ 71 ปีน้องชายผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ได้เจอพี่สาวครั้งสุดท้ายเดือนมกราคมปี 66 เพราะปกติตนจะมีหน้าที่มานำรถของพี่สาวไปต่อภาษีตรวจสภาพให้เป็นประจำทุกปี แต่เกิดขัดใจกันตนบอกพี่สาวว่าไม่ต้องต่อไม่ต้องทำรถแล้วเพราะทำไปก็ไม่ได้ใช้ แต่พี่สาวบอกจะเก็บไว้ให้สามีใช้ หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พูดคุยกันแต่ก็มีการส่งไลน์ไปทักสวัสดีทุกวันเป็นประจำ แต่พี่สาวไม่ยอมอ่านเลย โทรไปหาก็ไม่รับ จนกระทั่งครบปีตนคิดว่าผิดปกติ ที่ไม่สามารถติดต่อกันได้เลย วันนี้ซึ่งครบปีกว่าจึงตัดสินใจเดินทางมา เมื่อมาถึงบ้านล็อคจึงใช้ช่างไขกุญแจเปิดเข้าไป พบว่าเหลือแต่กระดูกแล้ว จริง ๆ แล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 66 ที่ผ่านมาตนได้ให้เพื่อนเช็คทะเบียนราษฏร์ ชื่อของนายมรกต พี่เขยเพื่อจะติดต่อพี่สาวอีกทางหนึ่งแต่ผลปรากฏว่ามีการแจ้งตายไปแล้วตั้งแต่ปี 53
จากการสอบถามจากเพื่อนบ้านคนแรกที่อยู่ใกล้กันให้ข้อมูลว่าเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 66 ยังเห็นคุณยายออกยืนข้างนอกบ้าน ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งเผยว่า 4-5 เดือนที่แล้วเคยเห็นผู้เสียชีวิตตอนประมาณ 22.00 น. ลงมาจากแท็กซี่ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป โดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนไม่พูดคุยกับใครเก็บตัวเงียบ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบถาม ญาติของผู้เสียชีวิตไว้ซึ่งยืนยันว่าติดต่อไม่ได้มาประมาณหนึ่งปี ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมอบโครงกระดูกให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติเวชศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
