หนุ่มยาริสโดนหลายกระทง ขณะที่ผู้เสียหายร้องตกลงค่าเสียหายกันได้ แต่ยังเงียบ หวั่นเบี้ยวไม่รับผิดชอบ
จากกรณีบนโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพกล้องหน้ารถกะบะเป็นเหตุการณ์ของชายหนุ่มขับรถยาริส ขับเข้ามาปาดหน้าจอดก่อนคว้าไม้เบสบอลมาทุบกระจกบริเวณแคปของรถกระบะ ทำให้คนขับรถกระบะซึ่งมีภรรยาและลูกนั่งมาด้วย ต้องขับรถหลบออกไป โดยอ้างว่าเพื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางหนุ่มยาริสยังคงขับตามมาและพุ่งเข้าชนท้ายรถกระบะ เป็นเหตุให้รถกระบะเสียหลักเข้าพุ่งชนรถที่จอดอยู่ข้างทาง ทำให้ภรรยาของคนขับรถกระบะและลูกได้รับบาดเจ็บ จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นกระแสแชร์ไปทั่วสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการกระทำของคนขับยาริสเป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุด นายอนุสรณ์ สิริพลภักดี อายุ 24 ปี และ นางธนิตา แซ่ลี้ อายุ 22 ปี 2 สามีภรรยาอาชีพพ่อค้าตลาดนัดพร้อมลูกสาววัย 2 ขวบผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถกระบะอีซูซุ ไฮแลนเดอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บร 8824 สระบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของคลิปที่ถูกเผยแพร่ และ นางปิยะวรรร ปิรยะวราภรณ์ อายุ 39 ปี ผู้เสียหายอีกคนซึ่งเป็นเจ้าของรถยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำหมายเลขทะเบียน ชพ896 กรุงเทพมหานคร ถูกลูกหลงจากการพุ่งชนของ นายนิอับดุลอาชิส มิเงาะ อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทา หมายเลขทะเบียน สย 9119 กรุงเทพมหานคร เดินทางเจ้าพบร.ต.อ.หรัสชัย ศรีสุมัง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ส่วนนายนิอับดุล ไม่ได้เดินทางมาร่วม โดยให้สาเหตุว่าติดธุระอยู่ที่ต่างจังหวัดโดยจะเดินทางมาภายหลัง
คลิปข่าว
เปิดใจเจ้าของยาริสหลังทุบกระจกรถกระบะ คาดอาจโดนหลายกระทง
ขณะที่น.ส. ปิยะวรรณ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ 22 มิ.ย. ทางฝั่งรถยาริส ได้ตกลงกับตนว่าจะชดใช้ทั้งหมด แต่หลังจากวันที่ตกลง ตนไม่สามารถติดต่อกับนายนิอับดุลอาชิส มีเพียงภรรยาของนายนิอับดุลอาชิส ติดต่อกับตนมาทางไลน์เพื่อต่อรองค่าเสียหายและบ่ายเบี่ยงมาตลอด
น.ส.ปิยะวรรณ กล่าวว่า ตนเตรียมหลักฐานเป็นข้อความทางไลน์มาให้ตำรวจดู และเตรียมแจ้งความนายนิอับดุลอาชิส ข้อหาทำให้ทรัพย์สินตนเสียหาย เพราะว่ารถกระบะของตนต้องใช้ในการขนของไปส่ง และตอนนี้รถก็ยังซ่อมอยู่ตนก็ไม่สามารถทำงานได้ ถ้าจำเป็นตนก็ต้องไปจ้างนถ ซึ่งทำให้ตนเดือดร้อนมาก
ด้านพ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า สำหรับคลิปที่ถูกเผยแพร่นั้นเป็นบางส่วนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความและตกลงค่าเสียหายกันทั้งหมดแล้วโดยฝ่ายเจ้าของรถยาริสผู้ก่อเหตุให้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดและค่ารักษาพยาบาลให้กับทั้งฝ่ายรถกะบะอีซูซุและกะบะนิสสัน
สำหรับคดีนี้จากการสอบสวนในวันเกิดเหตุพอจะสรุปได้ 3 กรณีคือขับขี่รถโดยประมาทหรือหน้าหวาดเสียวอันอาจเกิดอัตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ซึ่งเป็นฝ่ายของผู้ขับขี่รถกะบะอีซูซุที่มีการกลับรถแล้วเฉี่ยวชนกับรถเก๋งยาริสตามคำกล่าวอ้างของรถยาริส หากมีการก่อเหตุจริงก็จะทำการแจ้งส่วนกรณีที่ 2 คือข้อหาทำให้เสียทรัพย์ การที่ผู้ขับขี่รถเก๋งยาริสลงมาใช้ไม้ทุบที่กระจกด้านหลังรถกะบะอีซูซุซึ่งฝ่ายของผู้ขับขี่รถอีซูซุนั้นไม่ได้ทำการแจ้งความเนื่องจากมีการพูดคุยถึงการชดใช้ค่าเสียหายแล้วจนเป็นที่พอใจ ส่วนกรณีที่ 3 คือ การพุ่งชนของรถยาริสใส่ท้ายรถกะบะอีซูซุจนไปชนกับกะบะอีกคันนั้นตามข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอัตรายแก่กายจิตใจหรือทำให้เสียทรัพย์ ก็ต้องทำการสอบปากคำตัวนาย นิอับดุลอาชิส ว่ามีเจตนาก่อเหตุหรือไม่หากพบว่ามีเจตนาจริงก็จะทำการแจ้งข้อหาต่อไป
ด้าน นาย อนุสรณ์ เผยว่า สำหรับการใช้ไม้ทุบตีรถและลูกและภรรยาได้รับบาดเจ็บนั้นตนเองไม่ได้ติดใจเนื่องจากมีการตกลงค่าเสีย อีกทั้งไม่อยากให้คดียืดยาวไปมากกว่านี้เนื่องจากตนเองอยากที่จะกลับไปใช้เวลาทำมาหากินหาเงินเลี้ยงคลอบครัวมากกว่าจะต้องขึ้นโรงพักหรือขึ้นศาล สำหรับส่วนตัวนั้นก็ไม่ได้ติดใจเพราะหลังจากนาย นิอับดุลอาชิส พุ่งชนตนก็ได้เดินเข้ามาพอโทษกับตนที่ทำไปเพราะใจร้อนไม่มีสติส่วนที่ตนกลับรถแล้วไปเฉี่ยวชนรถของนาย นิอับดุลอาชิส ตนไม่ทราบจริงๆว่าเฉี่ยวซึ่งคดีจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นขอให้เป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตัดสิน
คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง
